การเรียนรู้นอกบ้านของลูก

view 1,204

02_nursery.jpg

 

เอนฟา รหัสอัจฉริยะ กับการเรียนรู้นอกบ้านของลูก

        แม้คุณแม่จะอยากเลี้ยงลูกอยู่กับบ้านเอง แต่ด้วยภาระหน้าที่ อาจต้องส่งลูกน้อยไปฝากไว้ที่เนิร์สเซอรี่ หากคุณแม่ได้เลือกเนิร์สเซอรี่ที่มีคุณภาพ จะเห็นว่านี่คือจุดเริ่มต้นของการเรียนการสอนในวัยอนุบาลนั่นเอง และหากคุณแม่ได้สังเกตลึกลงไปจะเห็นว่าในห้องเนิร์สเซอรี่ของลูกที่เริ่มจัด มุมต่างๆ ให้ลูกได้เรียนรู้นั้น มีเอนฟา รหัสอัจฉริยะสอดแทรกอยู่ ซึ่งหากพ่อแม่นำไปปรับใช้กับลูกที่บ้าน ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มกระบวนการเรียนรู้ของลูกให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น

 

เอนฟา รหัสอัจฉริยะในห้องเนิร์สเซอรี่ของลูก

มุมดนตรี

        อย่างที่เรารู้ดีกันว่าเด็กๆ นั้นชอบจังหวะและดนตรีในเนิร์สเซอรี่ส่วนใหญ่จึงมักเปิดเพลงให้เด็กๆ ได้สนุกสนาน ได้เคลื่อนไหวไปตามจังหวะเพลง เช่น โยกตัว ปรบมือ ทำท่าทางตามจังหวะเพลง ฯลฯ ซึ่งล้วนช่วยยืดช่วงความสนใจของเด็กให้อยู่กับกิจกรรมนั้นๆ ออกไปได้นานขึ้น บางเนิร์สเซอรี่จะมีมุมดนตรี ซึ่งมีทั้งดนตรีจริง และเครื่องดนตรีที่เป็นของเล่นให้เด็กได้จับ ได้เล่น ได้สัมผัส เช่น กลอง ลูกแซก กีตาร์ ฯลฯ เด็กๆจะจดจำชื่อมันได้ และยังได้เรียนรู้ความแตกต่างของเสียงเครื่องดนตรีแต่ละชนิด ความสามารถแยกแยะเสียงได้นั้น ต้องอาศัยสมาธิในการฟังเป็นอย่างมาก และเป็นพื้นฐานชั้นดีของการเรียนรู้ภาษา

        เหล่านี้คือ สิ่งที่ลูกได้เรียนรู้ของจังหวะและดนตรีในเนิร์สเซอรี่ ซึ่งคุณแม่ควรจะได้นำมาต่อยอด เช่น ชวนลูกรู้จักเครื่องดนตรีที่ลูกได้จับ ได้เล่นในเนิร์สเซอรี่บอกลูกว่าเครื่องดนตรีชนิดนั้นๆ ชื่ออะไร มีเสียงอย่างไรแม้ลูกอาจยังเล็กแต่อาจได้ชวนพูดคุยบ่อยๆ ก็จะทำให้เขาจดจำและคุ้นเคยหรืออาจจะเปิดเพลง ออกท่าทางเล่นสนุกกับลูกขณะอยูที่บ้าน เป็นต้น

            101770182.jpg
101825873.jpg มุมของเล่น

        เด็กๆ กับของเล่นเป็นของคู่กัน สิ่งที่ขาดไม่ได้ในเนิร์สเซอรี่ของเด็กๆ ก็คือ ของเล่น และของเล่นที่ดีสำหรับเด็กเล็กๆ ก็คือ ของเล่นที่ทำให้เขาได้ใช้ความคิด เช่น ของเล่นที่ฝึกให้เขาได้แยกหมวดหมู่ตามขนาด สีสันรูปทรง ฯลฯ เมื่อกลับมาอยู่บ้าน คุณแม่ก็ใช้ของใกล้ตัวนั่นแหละค่ะ นำมาชวนเขาเล่น เช่น ให้เขาจับคู่เหมือนรองเท้าคุณแม่ แยกสีสันของผลไม้ อย่างฝรั่ง แอปเปิ้ล ส้ม แยกรูปทรงของจาน ชาม ฯลฯ จะช่วยฝึกความจำและความคิดให้ลูกได้อย่างดี

นิทานและการสื่อภาษา

        สิ่งที่ขาดไม่ได้อีกอย่างในเนิร์สเซอรี่ของเด็กๆ ก็คือ หนังสือนิทาน แม้เด็กบางคนอาจจะยังเล็ก แต่เนิร์สเซอรี่ก็จะเล่านิทานให้เด็กๆ ฟัง เพราะเด็กทุกวัยสามารถฟังนิทานได้ ขณะที่มีการเล่านิทาน เสียงของผู้เล่าจะทำให้เด็กๆ จดจ่อไปกับเรื่องเล่าเหล่านั้น เป็นการฝึกสมาธิ ความจำให้เขาได้

        ในเมื่อทางเนิร์สเซอรี่ได้ฝึกฝนให้เด็กได้อยู่ในบรรยากาศของการมีนิทานและการพูดคุยแล้ว ทางบ้านก็ไม่ควรมองข้ามโอกาสที่จะนำนิทานมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตลูก พร้อมกับพูดคุยถึงเรื่องราวของนิทานที่ได้เล่าไปด้วย
            iStock_000004160707Medium.jpg

        จากวัยเนิร์สเซอรี่ เมื่อลูกก้าวสู่วัยอนุบาล กระบวนการเรียนรู้อย่างเป็นระบบจะมีความชัดเจนมากขึ้น หากลูกได้รับการปูพื้นฐานของการเรียนรู้ผ่านดนตรี การเล่น และนิทานในวัยเด็กเล็กมาอย่างดี พลังการเรียนรู้ในวัยอนุบาลจะเกิดขึ้นได้มากและรวดเร็วกว่าค่ะ


https://mjn.enfababy.com:443/%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81