คุณค่าของปริมาณ DHA และ ARA ที่เหมาะสม
view 2,100
พบคุณค่าของปริมาณ DHA และ ARAที่เหมาะสม (ปริมาณ DHA 17 มก. และ ARA 34 มก./ 100 กิโลแคลอรี) ต่อพัฒนาการด้านสติปัญญา และการมองเห็นของลูกน้อยวัยขวบปีแรก อย่าพลาด! Checklist พัฒนาการด้านสติปัญญา และการมองเห็นของลูกน้อย...เพียงคลิก!!
คุณค่าของปริมาณ DHA และ ARA ที่เหมาะสมต่อลูกน้อยขวบปีแรก
- คุณค่าต่อการพัฒนาระดับสติปัญญา
สติปัญญามักจะมาคู่กับความฉลาด พ่อแม่ทุกคนต่างต้องการให้ลูกเป็นเด็กฉลาด ก่อนอื่นเรามาตรวจสอบกันหน่อยว่าลูกน้อยของเรามีพัฒนาการด้านสติปัญญาสมวัยหรือไม่
พัฒนาการด้านสติปัญญาของลูกขวบปีแรก
อายุ 0-3 เดือน | |
|
|
อายุ 3-6 เดือน |
|
|
อายุ 6-9 เดือน |
|
|
อายุ 9-12 เดือน |
|
|
รู้มั้ยว่า... DHA และ ARA ในปริมาณ DHA 17 มก. และ ARA 34 มก./ 100 กิโลแคลอรี ช่วยพัฒนาระดับสติปัญญาของลูกน้อย
องค์กรนานาชาติอย่าง FAO/WHO ได้แนะนำปริมาณ DHA และ ARA ที่เหมาะกับเด็กวัยแรกเกิด- 1 ปี ว่าคือปริมาณ DHA 17 มก./100 กิโลแคลอรี และ ARA 34 มก./100 กิโลแคลอรี และเป็นปริมาณที่มีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับว่าช่วยพัฒนาระดับสติปัญญาของเด็กได้
เด็กที่ได้รับนมที่มี DHA 17 มก. และ ARA 34 มก./100 กิโลแคลอรี มีระดับสติปัญญา (MDI Score) สูงกว่าเด็กที่ได้รับนมที่ไม่เสริม DHA และ ARA ถึง +7 จุด (วัดที่อายุ 18 เดือน)
- คุณค่าต่อการพัฒนาการมองเห็น
เพราะการมองเห็นคือจุดเริ่มต้นที่ดีของการเรียนรู้ การมองเห็นเป็นความสามารถแรกที่จะนำไปสู่พัฒนาการอื่นๆ เพราะลูกจะใช้ดวงตารับรู้ข้อมูล ทำให้เกิดความอยากรู้ อยากสัมผัสสิ่งที่เห็น มือ แขน ขาเคลื่อนไหวประสานกับสายตา ทำให้สมองเกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องจากข้อมูลที่ได้รับ เด็กๆ นั้นไม่ได้มองเห็นในทันทีเกิดมา ต้องอาศัยการส่งเสริมจากพ่อแม่ด้วย
พัฒนาการการมองเห็นของเจ้าตัวเล็ก
อายุ | การส่งเสริม | ||
แรกเกิด : ลูกพยายามเพ่งสิ่งต่างๆที่สนใจที่อยู่ห่างออกไปได้ประมาณ 10 นิ้ว ถ้าไกลกว่านี้จะพร่ามัวลูกมีทักษะการเพ่งมองจำกัด จึงเรียนรู้โดยเปรียบเทียบส่วนที่สว่างกับที่มืด เช่น รูปสีดำขาว | สบตาลูกแล้วพูดคุย ยิ้ม หัวเราะ หรือเคลื่อนหน้าไปมาช้าๆให้ลูกมองตาม | ||
1 เดือน : สามารถมองได้ไกลขึ้นคือประมาณ 15 นิ้ว มือลูกสามารถเอื้อมไปแตะสิ่งที่มองเห็นได้ลูกจะมองเห็นได้ชัดเจนในระยะใกล้ (ระยะห่าง 30 – 50 ซม.) และจะเห็นเป็นภาพขาวดำ | แขวนของเล่นสีสดในระยะที่ลูกเอื้อมมือถึง | ||
2 เดือน : เริ่มแยกวัตถุที่สี รูปร่างกัน แต่ยังแยกโทนสีใกล้เคียงกันไม่ได้ เช่น สีแดง สีส้ม เริ่มมองวัตถุที่จุดกึ่งกลาง | หาของเล่นสีสด ถือภาพสีขาว-ดำ-แดง เลื่อนไปมาให้ลูกมองตาม | ||
3 เดือน : มองเห็นได้ดีขึ้น เพราะสามารถปรับระยะมองภาพใกล้ไกลได้ ตาทั้งสองข้างเคลื่อนไหวประสานกันได้ดี | แขวนโมบายที่เคลื่อนไหวได้ ให้ลูกเอื้อมคว้า เปลี่ยนตำแหน่งที่นอนของลูก | ||
4 เดือน : ลูกมองเห็นค่อนข้างสมบูรณ์ ปรับภาพในระยะต่างๆได้ชัดเจน หันไปมองซ้าย ขวา บนล่างตามวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ มองตามนิ้วไล่ไปตามหนังสือแต่ละหน้าได้ | ของเล่น 3 มิติ เช่น ตุ๊กตาผ้า บอล หรือสิ่งของรูปทรงต่างๆ มาให้ลูกสัมผัส | ||
5 เดือน : ลูกจดจำวัตถุได้ | ควรหาของเล่นหรือวัตถุรูปทรงต่างๆ ให้ลูกเล่น | ||
6 เดือน : ลูกเริ่มมองเห็นวัตถุที่มีสีสันได้ จำหน้าคนได้ มองสิ่งของได้ไกล 6 เมตร และการเคลื่อนไหวของตาทั้งสองข้างสามารถควบคุมและประสานงานได้ดี | ชี้ชวนลูกดูสิ่งที่กำลังเคลื่อนไหว หรือสิ่งของที่มีลวดลายซับซ้อน สีสันสะดุดตา | ||
6-9 เดือน : มองเห็นวัตถุ สามารถมองเห็นได้ไกลมากขึ้น และชัดเจนเป็นรูปเป็นร่าง ทั้งในด้านความชัดเจนและความลึกของวัตถุ | มองเห็นให้สมองเรียนรู้มากขึ้น | ||
9-12 เดือน : การมองเห็นพัฒนาเกือบเท่ากับผู้ใหญ่ การทำงานระหว่างกล้ามเนื้อมือและสายตามีความสัมพันธ์กันมากขึ้น | จัดสิ่งแวดล้อมในบ้านให้ปลอดภัย หาหนังสือให้ลูกดู เลือกเล่มที่ดึงดูดใจ มีสีสัน ภาพสวย ชัดเจน |
รู้มั้ยว่า... DHA และ ARA ในปริมาณ DHA 17 มก. และ ARA 34 มก./ 100 กิโลแคลอรี ช่วยพัฒนาการมองเห็นของลูกน้อย
องค์กรนานาชาติอย่าง FAO/WHO ได้แนะนำปริมาณ DHA และ ARA ที่เหมาะกับเด็กวัยแรกเกิด- 1 ปี ว่าคือปริมาณ DHA 17 มก./100 กิโลแคลอรี และ ARA 34 มก./100 กิโลแคลอรี และเป็นปริมาณที่มีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับว่าช่วยพัฒนาการมองเห็นของเด็กได้
เด็กที่ได้รับนมที่มี DHA 17 มก. และ ARA 34 มก./100 กิโลแคลอรี มีการมองเห็น (visual acuity) ดีกว่าเด็กที่ได้รับนมที่ไม่เสริม DHA และ ARA (วัดที่อายุ 1 ปี)
เช็คสายตาและการมองเห็นของลูกกันหน่อย
อายุ 1-2 เดือน | |
|
|
อายุ 3 เดือน |
|
|
อายุ 7-9 เดือน |
|
|
อายุ 9-12 เดือน |
|
|