พัฒนาสมองลูกน้อยด้วยเสียงดนตรี
view 5,936
คุณแม่ขาถึงลูกเราจะยังแบเบาะเป็นเบบี๋อยู่แบบนี้ ถึงวันๆ จะเอาแต่นอน ตื่นมาก็กิน ยังคุยอะไรกับเราได้ไม่มากก็เถอะ แต่จริงๆ แล้วเด็กๆ ก็ชอบฟังเพลงนะคะ เพราะเสียงดนตรีจะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองส่วนที่ควบคุมด้านสติปัญญา ความสนใจ ความจำ ทำให้เจ้าตัวเล็กของเราได้ใช้ประสาทสัมผัสทุกส่วนได้พร้อมๆ กัน ยืนยันได้จากผลการวิจัยที่ว่า เสียงดนตรีช่วยเพิ่มความสามารถของสมอง ทั้งด้านความคิดแบบคณิตศาสตร์ การอ่าน การเขียน การคิดอย่างมีเหตุ มีผล และเสียงดนตรี ยังช่วยวิเคราะห์และเชื่อมโยงเหตุผล ด้วยความคิดแบบมีมิติของเจ้าตัวเล็กของเราให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องด้วยค่ะ
พัฒนาสมองทั้ง 2 ซีกของเจ้าตัวเล็กง่ายๆ ด้วยเสียงดนตรี
เพลงคลาสสิก...ช่วยพัฒนาสมองได้นะ
อายุ 6-12 เดือน จะเป็นช่วงอายุที่เด็กจะเรียนรู้จังหวะได้แล้ว และเริ่มมีพัฒนาการทางภาษาที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เขาจะเริ่มขยับตัว หันศีรษะตามเสียงดนตรีได้ และพยายามจะเลียนแบบเสียงร้องต่างๆ ชอบการร้องเพลงโดยเฉพาะเพลงที่มีเนื้อหาสั้นๆ ง่ายๆ หรือเป็นเพลงที่มีจังหวะคล้องจองเนื้อร้องจำง่ายเข้าไว้ค่ะ นอกจากเพลงเนื้อร้องสั้นๆ จำง่ายๆ แล้ว ว่างเมื่อไหร่คุณแม่อย่างเราก็น่าจะเปิดเพลงคลาสสิกให้ลูกฟังด้วยนะคะ แนะนำเพลง Piano Sonata K448 ของโมสาร์ต เป็นเพลงที่มีจังหวะและทำนองที่ช่วยพัฒนาสมองของเจ้าตัวเล็กได้อย่างดีเลยค่ะ และยังช่วยพัฒนาสมองด้านภาษา และการรับรู้ของเจ้าตัวเล็กก่อนเข้าโรงเรียนได้ด้วยนะคะ หรือถ้าคุณแม่ชอบเพลงไทยๆ หน่อย อาจเปิดเพลงไทยเดิม ทำนองช้าๆ เนื้อร้องคล้องจองกัน หรือจะเป็นเพลงแบบไหนก็ได้ที่คุณแม่เห็นแล้วว่ามีเนื้อหาและทำนองที่ไพเราะ เปิดให้ลูกฟังก็ได้ค่ะ แต่ให้ลองเปิดสลับกันระหว่างเพลงที่มีเสียงร้อง กับเพลงบรรเลงควบคู่กันไปนะคะ อย่าเปิดเพลงแบบใดแบบหนึ่งมากจนเกินไป เพราะเพลงที่มีเนื้อร้องจะช่วยพัฒนาเรื่องภาษาของลูกได้ ส่วนเพลงบรรเลงก็ช่วยพัฒนาความเข้าใจ ความซาบซึ้งในเสียงดนตรี และช่วยพัฒนาอารมณ์ และความรู้สึกของลูกได้เป็นอย่างดีด้วยค่ะ |
นอกจากเพลงเนื้อร้องสั้นๆ จำง่ายๆ แล้ว ว่างเมื่อไหร่คุณแม่อย่างเราก็น่าจะเปิดเพลงคลาสสิกให้ลูกฟังด้วยนะคะ แนะนำเพลง Piano Sonata K448 ของโมสาร์ต เป็นเพลงที่มีจังหวะและทำนอง ที่ช่วยพัฒนาสมองของเจ้าตัวเล็กได้อย่างดีเลยค่ะ และยังช่วยพัฒนาสมองด้านภาษา และการรับรู้ของเจ้าตัวเล็กก่อนเข้าโรงเรียนได้ด้วยนะคะ หรือถ้าคุณแม่ชอบเพลงไทยๆ หน่อย อาจเปิดเพลงไทยเดิม ทำนองช้าๆ เนื้อร้องคล้องจองกัน หรือจะเป็นเพลงแบบไหนก็ได้ที่คุณแม่เห็นแล้วว่ามีเนื้อหาและทำนองที่ไพเราะเปิดให้ลูกฟังก็ได้ค่ะ แต่ให้ลองเปิดสลับกันระหว่างเพลงที่มีเสียงร้อง กับเพลงบรรเลงควบคู่กันไปนะคะ อย่าเปิดเพลงแบบใดแบบหนึ่งมากจนเกินไป เพราะเพลงที่มีเนื้อร้องจะช่วยพัฒนาเรื่องภาษาของลูกได้ ส่วนเพลงบรรเลงก็ช่วยพัฒนาความเข้าใจ ความซาบซึ้งในเสียงดนตรี และช่วยพัฒนาอารมณ์ และความรู้สึกของลูกได้เป็นอย่างดีด้วยค่ะ
นอกจากเปิดเพลงให้ฟังแล้ว ยอดคุณแม่อย่างเราก็น่าจะลองหาเครื่องดนตรีที่เล่นง่ายๆ และเหมาะสำหรับเด็กเล็กๆ มาให้ลูกเราหัดเคาะ หัดตีบ้างนะคะ เขาจะได้เรียนรู้ความแตกต่างของเสียงต่างๆ ที่เกิดขึ้น ที่สำคัญก็คือ ก่อนที่เจ้าตัวเล็กของเราจะหาวจนหลับไป ลองเปิดเพลงบรรเลงหรือเพลงคลาสสิกที่มีทำนองเพลงเพราะๆ ช้าๆ แทนเพลงกล่อมนอนให้ลูกฟังดูสิคะ เขาจะได้นอนหลับสนิทขึ้น สบายตัวมากขึ้น หรือถ้าช่วงที่ดูแล้วลูกอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ก็เปิดเพลงให้ลูกฟังนะคะ เพราะเป็นช่วงที่สมองของเขาเกิดการเรียนรู้ที่ดี และพร้อมที่จะมีพัฒนาการด้านอารมณ์ที่ดีตามไปด้วยค่ะ
กิจกรรม : ดนตรีสำหรับเจ้าตัวเล็ก 6-12 เดือน