ลูกวัย 3-6 ขวบ ฝึกให้มีสมาธิได้
view 7,032
เด็กในวัยนี้อยู่ในวัยซน มีความอยากรู้อยากเห็น ชอบทดลองสิ่งใหม่ๆ และมีพฤติกรรมไม่อยู่นิ่ง คุณแม่จึงอาจจะกลัวว่าลูกจะกลายเป็นเด็กที่ไม่มีสมาธิ จึงต้องหาวิธีที่จะให้ฝึกให้เจ้าหนูมีสมาธิ หลายคนเข้าใจว่าต้องพาลูกไปเข้าคอร์สนั่งสมาธิหรือทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งที่ความจริงแล้ว กิจวัตรประจำวันในบ้านที่ลูกทำก็สามารถช่วยฝึกให้เขามีสมาธิได้เช่นกันค่ะ
ปล่อยให้ลูกหัดทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง คุณแม่ควรปล่อยให้ลูกดูแลตัวเองในเรื่องง่ายๆ อย่างการเช็ดตัว ทาแป้ง หรือใส่เสื้อผ้าเอง เพราะการทำกิจวัตรต่างๆ เหล่านี้ เด็กต้องใช้สมาธิจดจ่อ เพื่อบังคับควบคุมกล้ามเนื้อของร่างกาย อย่างการทาแป้งก็ต้องควบคุมมือและสายตาในการประคองแป้งไปปะตามร่างกาย ซึ่งนอกจากจะฝึกสมาธิจากการช่วยเหลือตัวเองแล้ว ยังช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางร่างกายของเจ้าตัวเล็กอีกด้วย
เล่านิทานก่อนนอน เป็นวิธีที่ง่ายและทำได้ทันที เพราะการฟังนิทานก่อนนอน จะเป็นช่วงเวลาที่เขาเหมือนตกอยู่ในภวังค์ ซึ่งจะทำให้เขามีสมาธิมากกว่าเวลาอื่น จะช่วยฝึกสมาธิในการฟัง และจะส่งผลดีทำให้เขาชินกับการอ่านและหยิบจับหนังสืออีกด้วยค่ะ
การเลือกของเล่น เจ้าตัวเล็กบางคนมีของเล่นมากมาย แต่ชอบเล่นของเล่นชิ้นเก่าๆ อยู่เพียง 2-3 ชิ้นเท่านั้น การที่มีของเล่นจำนวนมาก อาจทำให้เจ้าตัวเล็กสมาธิสั้น วิธีที่ดีที่สุดจึงไม่ใช่การมีของเล่นจำนวนมาก แต่อยู่ที่วิธีการเล่น ถ้าเจ้าตัวเล็กทำท่าเบื่อแล้ว คุณแม่อาจบอกให้เขาเอาไปเก็บ แล้วหยิบของเล่นชิ้นใหม่ที่เขาอยากเล่นอันต่อไปมา วิธีนี้นอกจากจะช่วยฝึกสมาธิแล้ว ยังฝึกระเบียบให้เจ้าตัวเล็กรู้จักเก็บของๆ ตัวเองอีกด้วย
ชวนหนูออกกำลังกาย การโยนลูกบอล หรือการถีบจักรยาน ล้วนแต่เป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน และเจ้าตัวเล็กมักจะเล่นได้นาน ซึ่งแต่ละกิจกรรมต้องมีใจจดจ่อมีสมาธิ จึงจะสามารถวิ่งหรือมุ่งตรงไปข้างหน้าได้ นอกจากจะทำให้ลูกมีสมาธิที่ดีแล้ว ยังทำให้ร่างกายของลูกแข็งแรงด้วยค่ะ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่คุณพ่อคุณแม่ใส่ใจและสนใจว่าลูกสนใจกิจกรรมใดเป็นพิเศษ และสนับสนุนกิจกรรมนั้นๆ เช่นหากลูกชอบระบายสี ก็ควรนั่งระบายสีกับเขา เพื่อให้เขาเลียนแบบการกระทำของคุณแม่ เพราะผู้ใหญ่มักจะมีสมาธิกับการทำอะไรเป็นเวลานาน ลูกก็จะเลียนแบบและรู้สึกอบอุ่นที่มีคุณแม่อยู่ใกล้เกินกว่าที่เขาจะสนใจอย่างอื่นค่ะ