อาหารการกินของเด็กวัย 3-6 ปี
view 10,136
เด็กวัยนี้ ร่างกายกำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ชอบเคลื่อนไหว ไม่อยู่นิ่ง ชอบเล่น และทำกิจกรรมตลอดเวลา จึงต้องใช้พลังงานมาก ดังนั้น เด็กจึงต้องได้รับอาหารอย่างเพียงพอ เพื่อชดเชยพลังงานที่เสียไป เด็กควรได้รับอาหารหลายมื้อใน 1 วัน เช่น เพิ่มอาหารว่างระหว่างมื้อเช้าและมื้อกลางวัน และในช่วงบ่ายหลังจากเด็กตื่นนอนก็ควรได้รับอาหารว่างอีก 1 มื้อ
อาหารที่เด็กวัยนี้ควรจะได้รับใน 1 วัน มีลักษณะดังนี้
- ผัก ควรให้เด็กได้กินผักทุกวัน ผักมีหลายสีและคุณค่าต่างกัน เด็กจึงควรได้กินผักที่หลากหลาย เช่น มะเขือเทศ ฟักทอง ผักบุ้ง ผักคะน้า ผักตำลึง เป็นต้น
- เนื้อสัตว์ เด็กควรได้กินเนื้อสัตว์ต่างๆ รวมถึงอาหารทะเล เช่น กุ้ง ปลา และตับ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
- ไข่ เด็กควรได้กินไข่เป็ดและไข่ไก่ควรรับประทานวันละ 1 ฟอง เพราะในไข่เป็นแหล่งมีโปรตีนและธาตุเหล็กชั้นดี (และราคาถูก)
- นม ควรให้เด็กๆ ได้ดื่มนมวัวหรือนมถั่วเหลืองอย่างน้อยวันละ 2-3 แก้ว (75 มก.) ในนมมีแคลเซียม วิตามินมากมาย
- ธัญพืช เช่น ถั่วเขียว ถั่วลิสง ถั่วเหลือง งา ข้าวโอ๊ต ข้าวฟ่าง ลูกเดือย ซึ่งมีวิตามินมากมาย ก็เป็นสิ่งที่ต้องให้เด็กได้กิน
- ผลไม้ชนิดต่างๆ ควรให้เด็กกินผลไม้ให้มากๆ ไม่ว่าจะเป็นส้ม มะละกอ กล้วย ฝรั่ง ผลไม้มีกากใยที่ช่วยเรื่องการขับถ่าย และมีวิตามินต่างๆ ที่ช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ
- ข้าว หรือคาร์โบไฮเดรตที่เด็กควรได้รับทุกวันเช่นกัน
- ไขมันหรือน้ำมัน ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นและเพิ่มพลังงาน ควรให้เด็กอย่างน้อยวันละ 2-3 ช้อนโต๊ะ อาจอยู่ในรูปของอาหารทอด เช่น ไก่หรือหมูทอด และของว่า เช่น กล้วยทอด เป็นต้น
เมื่อเด็กอายุเข้าขวบปีที่ 3 ฟันน้ำนมจะแข็งแรงพอที่จะขบเคี้ยวอาหารแข็งได้แล้ว อวัยวะสำหรับ ย่อยอาหารสามารถทำงานได้ดีขึ้น จึงเหมาะที่จะฝึกให้เด็กกินอาหารที่หลากหลายและมีประโยชน์ รวมทั้งการฝึกให้เด็กช่วยเหลือตนเองในการกินอาหาร และปลูกฝังเรื่องมารยาทในการรับประทานอาหารอย่างง่ายๆ พ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูเด็กไม่ควรคาดหวังกับเด็กมากเกินไป เช่น ต้องการให้เด็กกินอาหารไม่หกเลอะเทอะ กินอาหารที่จัดเตรียมไว้ให้หมด ฯลฯ ถ้าพ่อแม่ เคี่ยวเข็ญมากเกินไป เด็กจะต่อต้านและไม่ยอมทำตาม ทำให้เกิดปัญหาการกินขึ้นได้
