จากการศึกษาทำให้เราพบว่า สมองจะมีการเจริญเติบโตสูงสุดในช่วง 1,365 วันแรกของชีวิต นั่นคือตั้งแต่ตอนอยู่ในครรภ์ถึง 3 ขวบปีแรก และเด็กทุกคนเกิดมามีจำนวนเซล์สมองแสนล้านเซลล์เท่ากัน แต่เมื่อโตขึ้นเด็กแต่ละคนกลับมีศักยภาพของสมองที่แตกต่างกัน ที่เป็นเช่นนี้เพราะเซลล์สมองขาดการเชื่อมต่อกันในช่วงเวลาที่สมองมีการเจริญเติบโตสูงสุด
ในช่วง 1,365 วันอันเป็นช่วงเวลาทองนี้ คุณพ่อคุณแม่จึงต้องให้ความสำคัญกับการสร้าง การเชื่อมต่อของเซลล์สมองลูกให้เกิดขึ้นมากที่สุด
DHA PLUS ช่วยเชื่อมต่อเซลล์สมอง เพื่อเพิ่มศักยภาพการเรียนรู้ที่เหนือกว่า DHA เป็นกรดไขมันจำเป็นที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของสมองและจอประสาทตา รวมทั้งมีบทาทต่อการเชื่อมต่อ ของเซลล์ประสาทในสมองของเด็กที่ส่งผลต่อสติปัญญาและการเรียนรู้ของเด็กให้มีศักยภาพมากขึ้น
มีงาน 4 งานวิจัยทางการแพทย์พิสูจน์ว่า DHA ช่วยเชื่อมต่อเซลล์สมองให้พัฒนาศักยภาพสูงสุด 4 ด้าน อันเป็น 4 คุณลักษณะของอัจฉริยภาพ ซึ่งแต่ละด้านคุณพ่อคุณแม่สามารถส่งเสริมด้วยกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เกิดการพัฒนามากยิ่งขึ้น
การแก้ปัญหาเกิดจากการทำงานของสมองที่ประกอบด้วยการคิด การวิเคราะห์ การสังเกต ความเข้าใจเหตุและผล การวางแผน การจดจำ และมีสมาธิที่ดี ศักยภาพในการแก้ปัญหาของเด็ก จะมีมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูและโอกาสในการเรียนรู้
เคล็ดลับการเชื่อมต่อเซลล์สมอง เพื่อต่อยอดการเรียนรู้ไร้ขีดจำกัด
ใส่อุปสรรคหรือความท้าทายให้ลูกได้คิดแก้ไขผ่านการเล่น เช่น เมื่อเขาจะคลานไปเอาของเล่น เราก็อาจใช้หมอนกั้นไว้ให้เขาคิดหาทางไปเอาของเล่นนั้น เด็กบางคนอาจจะคลานทับหมอนไปเลย บางคนก็อาจจะแก้ปัญหาด้วยการคลานอ้อมหมอนไป หรือเล่นซ่อนของเล่น เพื่อให้ลูกคิดหาทางไปเอาของเล่นให้ได้ เป็นต้น
ให้ลูกเล่นเกมแก้ปัญหา เช่น เกมแก้ปมเชือก เกมหาทางออกจากเขาวงกต เป็นต้น
ฝึกให้ลูกได้ช่วยเหลือตัวเองในชีวิตประจำวันง่ายๆ ตามวัย เช่น การใส่เสื้อเอง ตักอาหารกินเอง เก็บของเล่นเอง เป็นพื้นฐานที่สำคัญในการฝึกการแก้ปัญหาให้ลูก เพราะลูกจะใช้ความคิดแก้ไขปัญหาจากงานที่ทำ
ตั้งคำถาม...ท้าให้คิดคำถามแบบปลายเปิด เป็นคำถามชวนให้คิด ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิด แต่มีคำตอบที่หลากหลาย เสริมทักษะด้านการคิดวิเคราะห์ เรียนรู้ที่จะเชื่อมโยงข้อมูล และนำข้อมูลทั้งหมดที่รู้มาใช้หาคำตอบ...เป็นการฝึกทักษะการแก้ปัญหาต่าง ๆ
การมองเห็นคือจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ เมื่อลูกมองเห็นได้ดี การเรียนรู้ก็ทำได้ดี เพราะสามารถ ใช้มือหยิบจับสิ่งรอบตัวได้มากขึ้น เมื่อเด็กใช้มือ ตา ทำงานประสานกันมากขึ้น เซลล์ประสาท ประสานงาน ซึ่งจะคอยทำหน้าที่เป็นตัวกลาง ส่งกระแสประสาทจากเซลล์หนึ่งไปอีกเซลล์หนึ่ง ก็ทำหน้าที่ควบคู่ไปด้วย ทำให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์
เคล็ดลับการเชื่อมต่อเซลล์สมอง เพื่อต่อยอดการเรียนรู้ไร้ขีดจำกัด
ดูสิ่งกระตุ้นสายตา สำหรับลูกวัยทารกให้ลูกดูสิ่งของที่มีสีสันตัดกันอย่างชัดเจน เช่น แผ่นกระตุ้นสายตา ลูกบอล หรือโมบายล์สีสันสดใส เป็นต้น
ส่งเสริมการทำงานของมือ-ตา ให้ลูกใช้มือหยิบจับของเล่นที่เขาสนใจด้วยตัวเองบ่อยๆ เพื่อฝึกความแม่นยำและสายตาให้ลูกมากขึ้น หรือกระตุ้นให้ลูกมองตามของเล่นชิ้นโปรด เพื่อฝึกการคว้าจับ ช่วยให้การทำงานของมือและตาพัฒนามากขึ้น
ฝึกการสังเกต ขณะอ่านหนังสือด้วยกัน ชี้ให้ลูกดูรายละเอียดของภาพว่าใครทำอะไร ที่ไหน มีอะไรปรากฏในภาพบ้าง เป็นต้น เพื่อฝึกการใช้ตาสังเกสิ่งรอบข้างของลูก
ชวนลูกเล่นเกม Photo Hunt ที่ให้สังเกตความแตกต่างของภาพ เป็นต้น
ชวนลูกทำกิจกรรมศิลปะ เช่น ปั้นดินน้ำมัน วาดภาพ ระบายสี ที่ล้วนต้องใช้การทำงานร่วมกันของมือและตา
ความฉลาดของเด็กเกิดจากการที่สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เด็กที่ฉลาดจะมีการเรียนรู้ที่รวดเร็ว รับรู้ และเข้าใจสิ่งต่างๆ ได้ง่าย สามารถเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆ ได้ดี
เคล็ดลับการเชื่อมต่อเซลล์สมอง เพื่อต่อยอดการเรียนรู้ไร้ขีดจำกัด
ชวนลูกเล่น เช่น เล่นต่อบล็อก เล่นก่อกองทราย ฯลฯ ที่ช่วยให้เขาได้คิดว่าจะต่อออกมาอย่างไรให้ได้ตามใจคิด
ชวนลูกประดิษฐ์ของเล่นจากของใกล้ตัว เช่น ทำรถลากจากขวดพลาสติก ทำบ้านจากกล่องกระดาษ เป็นต้น
เลือกของเล่นแบบ...ปลายเปิด ของเล่นปลายเปิด หมายถึงของเล่นที่ไม่มีรูปแบบการเล่นที่เจาะจง ลูกจะได้ใช้จินตนาการสร้างสรรค์เต็มที่ เช่น ต่อบล็อกไม้เป็นรูปต่าง ๆ ปั้นแป้งโดว์ การเล่นในบ่อทราย แม้แต่สิ่งของใกล้ตัว ในบ้านก็นำมาเล่นสนุกได้ เช่น กะละมัง ถัง กล่อง เป็นต้น
สนุกที่มือ ฉลาดที่สมอง ฝึกให้ลูกใช้มือทั้งสองข้างในการเล่น หรือทำกิจวัตรประจำวัน เช่น หยิบของเล่นเอง ทานข้าวเอง ฝึกติดกระดุม โยนลูกบอล ให้ลูกได้มีโอกาสสัมผัสธรรมชาติ ดิน หิน ทราย เพื่อเรียนรู้ถึงความ แตกต่างของผิวสัมผัส เพราะมีผลโดยตรงต่อการเชื่อมต่อของเซลล์สมอง
พัฒนาการทางภาษาส่งผลต่อพัฒนาการด้านอื่นๆ โดยรวมของเด็ก เพราะภาษา ช่วยเสริมสร้างความสามารถในการคิด และการแก้ปัญหา ทั้งยังช่วยในการแสดงออก ทางอารมณ์และความรู้สึกอีกด้วย การได้ฝึกบ่อยๆ การได้รับการป้อนข้อมูลซ้ำๆ เป็น กระบวนการสอนให้ลูกเรียนรู้ได้ว่า เรื่องราวที่พูดคุยกันอยู่คือเรื่องอะไร ข้อมูลเหล่านี้จะ บรรจุอยู่ในเครือข่ายเส้นใยสมอง ทำให้ลูกจดจำสิ่งที่พูดคุยกันได้ เกิดความเข้าใจใน ความหมายของภาษา
เคล็ดลับการเชื่อมต่อเซลล์สมอง เพื่อต่อยอดการเรียนรู้ไร้ขีดจำกัด
พูดคุยกับลูกบ่อยๆ โดยการออกเสียงให้ช้าๆ ชัดเจน และมองหน้าลูกขณะที่พูดกับเขา เพื่อให้ลูกได้เลียนแบบการพูด
นิทาน สานสัมพันธ์ใกล้ชิดพ่อแม่ลูก การที่พ่อแม่อ่านหนังสือบทกลอนสั้น ๆ หรือเล่านิทานให้ลูกฟัง เป็น ประสบการณ์ที่มีคุณค่าสำหรับลูก โดยเฉพาะความอบอุ่น และความสุขที่ลูกได้รับจากน้ำเสียง และสัมผัสของคุณพ่อ คุณแม่ขณะฟังเรื่องราว พัฒนาทักษะภาษา เรียนรู้คำใหม่ ๆ การฟัง การมองเห็น การจดจำและลำดับเรื่องราว
คำถาม “ทำไม...” ต่อยอดการเรียนรู้ คำถามซึ่งแสดงความอยากรู้ อยากเห็น คุณพ่อคุณแม่เพียงอธิบายง่าย ๆ หรือลองถามกลับบ้าง..เพื่อต่อยอดความสนใจ หรือแนะนำลูกให้ลองถามคำถามนี้กับผู้อื่นบ้าง เพื่อให้ได้คำตอบที่หลากหลาย ส่งเสริมพัฒนาการด้านการสื่อสารให้กับลูกด้วย
เพลงและดนตรีแสนหรรษา สร้างเสียงและจังหวะกับกิจกรรมต่างๆ เช่น เวลาเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูก ก็ร้องเพลงเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูก อาจจะเป็นกลอนสั้นๆ แล้วใส่เสียงสูงต่ำแบบการร้องเพลงเข้าไป หรือเปิดเพลง ชนิดต่างๆ ให้ลูกฟังบ้าง เช่น บางวันอาจจะเป็นลูกทุ่ง บางวันเป็นเพลงบรรเลง หรือเพลงป๊อปยอดฮิตทั่วไป นักวิจัย ค้นพบว่าการให้ลูกมีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับจังหวะดนตรีมีความเกี่ยวพันกับการเรียนรู้เรื่องคณิตศาสตร์ของลูก ในอนาคต
VIDEO
คุณพ่อคุณแม่สามารถพบกับเคล็ดลับเชื่อมต่อแสนล้านเซลล์สมอง ต่อยอดการเรียนรู้ไร้ขีดจำกัดให้ลูกน้อยได้อีกมากมายในงาน Enfa Brain Expo ในวันที่ 28 ก.พ.- 4 มี.ค. (จ.เชียงใหม่) และวันที่ 21-24 มี.ค. (จ.สุราษฏร์ธานี)