คุณแม่...คือครูสอนภาษาที่ดีของลูก
view 3,715
เด็กมีการเรียนรู้ในเรื่องต่างๆ ได้ตั้งแต่ช่วงแรกเกิด โดยเฉพาะเรื่องของภาษาที่ลูกสามารถเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อมรอบตัว จากคนรอบข้างและที่สำคัญที่สุดจากตัวคุณแม่ซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดกับลูกมากที่สุด เพราะได้ใช้ภาษาสื่อสารกับลูกน้อยตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ คุณแม่นับเป็นครูสอนภาษาคนแรกสำหรับเจ้าหนูเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากภาษาที่ใช้ในชีวิตปกติประจำวันแล้ว คุณแม่ก็ยังสามารถเป็นครูสอนภาษาที่สองให้กับลูกได้อีกด้วยค่ะ
มีผลงานวิจัยพบว่า ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศของมนุษย์ คือ ตั้งแต่แรกเกิด - 7 ปี เนื่องจากเป็นช่วงที่สมองมีความสามารถพิเศษบางประการ ที่ช่วยให้การเรียนรู้เกิดขึ้นได้เร็วกว่าการมาเรียนภาษาที่สองเมื่อโตแล้ว โดยมีการค้นพบเกี่ยวกับความมหัศจรรย์ของสมองเด็กว่า เด็กทารกแรกเกิดมีความสามารถในการจำแนกความแตกต่างของเสียงได้ทั้งหมด แต่ความสามารถนี้จะเริ่มด้อยลงเรื่อยๆ เมื่อเด็กอายุมากขึ้น โดยในช่วงขวบปีแรก เป็นช่วงที่สมองมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และหนึ่งในการพัฒนาเหล่านี้ก็คือการสร้างโครงสร้างทางภาษาที่เหมาะสมสำหรับเด็ก จึงอาจกล่าวได้ว่า เด็กทารกสามารถเรียนรู้ภาษาได้มากกว่า 1 ภาษาโดยไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด ซึ่งแตกต่างจากผู้ใหญ่หลายๆ คนที่เรียนรู้ภาษาที่สองอย่างลำบากยากเย็น |
คุณแม่หลายคนพยายามที่จะฝึกให้สมองของลูกซึมซับภาษาใหม่ๆ ลงไป โดยหวังพึ่งจากซีดีประกอบการเรียนรู้ หรือทีวีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่วิธีการที่ง่ายที่สุดที่จะใช้สอนภาษาที่สองกับลูกก็คือการพูดกับเขา โดยคุณแม่ควรจะพูดทั้งภาษาแม่ และภาษาที่สองกับลูก เพื่อให้ลูกเรียนรู้และซึมซับไปในแต่ละวัน รวมทั้งควรสร้างสภาพแวดล้อมแบบสองภาษาจะทำให้สมองของเด็กมีความยืดหยุ่นได้มากกว่า เช่น สมาชิกในครอบครัวใช้ภาษาที่สองหรือภาษาที่สามร่วมกัน
คุณแม่ควรระลึกเสมอว่าลูกจะเรียนรู้จากการเลียนแบบ และคนที่ใกล้เขามากที่สุด ดังนั้นคุณแม่ก็ควรเป็นตัวอย่างเพื่อให้เขาได้เลียนแบบในเรื่องของการฝึกภาษา ขอให้คุณแม่ถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องสร้างทุนปัญญาให้กับลูก โดยการสอนที่ไม่ควรเครียดมากนัก แต่ควรทำให้สนุกและมีความสุข เรียกว่าสอนผ่านการเล่น ลูกก็จะเรียนรู้อย่างผ่อนคลาย ไม่เครียดและเมื่อเติบโตขึ้นมาก็จะกลายเป็นเด็กที่พูดได้หลายภาษา สมดังความตั้งใจของคุณแม่ค่ะ