นอกจากคุณแม่จะใช้เสียงเพื่อทดสอบการได้ยินของลูกวัยทารกแล้ว ยังสามารถใช้เสียงเป็นเครื่องมือช่วยกระตุ้นการเชื่อมต่อของเซลล์สมองลูกน้อยได้ด้วย แต่เสียงที่ว่านี้ไม่ใช่ว่าจะเป็นเสียงอะไรก็ได้ แต่จะต้องเป็นเสียงที่มีคุณสมบัติบางอย่างที่เหมาะสมด้วยดังนี้
- เสียงเพลงจากแม่ เสียงเพลงจากแม่ ไม่ว่าจะเป็นเพลงกล่อมเด็กหรือเพลงอื่นๆ ที่แม่ร้องด้วยความรัก นุ่มนวลอ่อนโยน ทำให้ลูกน้อยวัยทารก รู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย โดยเพลงที่ร้องให้ลูกฟังนั้นควรเป็นเสียงที่มีเนื้อร้อง คำคล้องจองที่ฟังได้ง่าย ทุกครั้งที่ลูกได้ยินเพลงกล่อมจากแม่ เขาจะนิ่ง สงบ และค่อยๆ หลับลงได้อย่างสุขใจ
- เสียงเพลงจากพ่อ นอกจากเสียงเล็กๆ โทนสูงของแม่แล้ว เสียงในโทนก้องต่ำของคุณพ่อ ก็จะทำให้ลูกได้รู้จักแยะแยะเสียงที่มีความแตกต่าง คุณพ่ออาจร้องเพลงพร้อมจับลูกโยกตัวไปมาในอ้อมแขน หรือจับลูกทำท่าเหมือนไกวเปลไปมา ความแข็งแรงของพ่อจะทำให้ลูกมีความสุขไปอีกแบบ รวมทั้งได้ออกกำลังแขน ขา พัฒนากล้ามเนื้อด้วย
- เสียงดนตรี การฟังเสียงดนตรี เป็นหนึ่งในวิธีการพัฒนาเซลล์สมอง และเสียงดนตรีจะทำให้สมองซีกขวาและซ้ายทำงานไปพร้อมๆ กัน นั่นคือสมองซีกขวารับรู้ถึงความไพเราะ ความรู้สึกผ่อนคลาย ส่วนสมองซีกซ้ายรับรู้ตัวโน้ตและจังหวะ การฟังดนตรีจึงช่วยกระตุ้นให้มีการสื่อสารข้อมูลของสมองส่วนต่างๆ ทำงานได้อย่างเชื่อมโยงและราบรื่นยิ่งขึ้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรเลือกเพลงที่มีท่วงทำนองช้าๆ จังหวะนุ่มนวล ให้ลูกฟัง ซึ่งจะเป็นเพลงไทยหรือเพลงสากลก็ได้
|
|
- เสียงที่หลากหลาย หาเสียงชนิดต่างๆ ให้ลูกฟัง เช่น เสียงจากธรรมชาติ อย่างเสียงลมพัด น้ำไหล เสียงนกร้อง เสียงเครื่องดนตรีชนิดต่างๆ ฯลฯ มาให้ลูกฟังบ่อยๆ เด็กวัยนี้สามารถที่จะเรียนรู้เสียงและจำเสียงได้ ยิ่งเสียงที่ได้ยินบ่อยๆ ฟังซ้ำๆ ก็จะรู้จักเสียงและคุ้นเคยกับเสียงที่ได้ยิน จนสามารถแยกแยะเสียงได้ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการฟังดนตรี และพัฒนาการทางภาษาต่อไป