ศิลปะในการรับฟังลูกพูด
view 3,052
เวลาที่ลูกน้อยพูด แม้จะรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ก็นับว่าเป็นพัฒนาการด้านภาษาค่ะ เพราะเป็นสิ่งที่เจ้าตัวเล็กพยายามจะบอกให้คนรอบข้างไม่ว่า จะเป็นคุณพ่อ หรือคุณแม่ รับรู้ เพื่อสื่อความคิดและความรู้สึกของเขาค่ะ คุณแม่เองก็มีส่วนในการส่งเสริมพัฒนาการด้านการพูดของลูกน้อยได้ ด้วยศิลปะในการรับฟังลูกพูดค่ะ
- คุณแม่ควรรับฟังลูกพูดด้วยความสนใจ เพื่อให้ลูกรู้สึกว่าเรื่องที่เขาพูดนั้นสำคัญ และคุณแม่สนใจเขา เพราะหากแสดงให้เขาเห็นว่าคุณแม่ไม่สนใจ ลูกก็จะไม่กล้าเล่าอะไรให้คุณแม่ฟังอีกเลย
- ห้ามพูดเชียวค่ะ ประโยคที่ว่า “หยุดพูดก่อนได้มั้ย” หรือ “เมื่อไหร่จะหยุดพูด แม่กำลังยุ่งอยู่” นอกจากไม่ส่งเสริมพัฒนาการแล้ว ยังหยุดยั้งพัฒนาการอีกด้วย ดังนั้น สิ่งที่ควรทำคือ หยุดภารกิจตรงหน้าสักพักแล้วหันมาฟังเจ้าตัวเล็กพูดก่อนค่ะ
- ควรฟังโดยให้ความสนใจทั้งคำพูดและสังเกตสีหน้าท่าทางขณะที่ลูกพูด การฟังอย่างใส่ใจ พ่อแม่จะเข้าใจว่าลูกรู้สึกอย่างไร และคิดอย่างไร อะไรที่ทำให้เขารู้สึกแบบนั้น ลูกมีจุดอ่อน จุดแข็งอย่างไร ทำให้ทราบว่าจะส่งเสริมลูกให้เติบโตและเข้มแข็งได้อย่างไร
- สบตาด้วยค่ะ อันนี้ไม้ตายนะคะ คุณแม่ควรหันมามองหน้าลูกด้วยแววตาที่ใส่ใจ เท่านี้เจ้าตัวเล็กก็รู้สึกถึงความสนใจในตัวคุณแล้วล่ะ
นอกจากการฟังที่ดีแล้ว การตั้งคำถามกับลูกก็มีความสำคัญนะคะ เพราะการตั้งคำถามที่เหมาะสม จะทำให้คุณแม่ได้รับคำตอบที่น่าพอใจ คือคุณแม่ต้องถามด้วยความสนอกสนใจ ไม่ตัดสินผิดถูก และถามอย่างใจกว้าง จะทำให้บทสนทนาดำเนินไปด้วยดี คำถามที่ดีจะช่วยให้ลูกรู้ว่าพ่อแม่สนใจเขา และจะกล้าเปิดเผยตนเองมากขึ้น สำหรับคำถามที่ควรถามกับลูกนั้น ควรเป็นคำถามแบบเปิด คือเปิดให้ลูกได้แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ ไม่ได้เพียงถามว่าใช่หรือไม่ใช่ และคำถามเปิดยังจะทำให้เด็กมีอิสระไม่ถูกบังคับ และจะได้แสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระด้วยค่ะ อย่าลืมว่าคุณแม่คือตัวอย่างของผู้พูดและผู้ฟังที่ดีนะคะ ลูกน้อยจะซึมซับและนำไปปฏิบัติจนเป็นนิสัยที่ดีต่อไปค่ะ
