อัลตราซาวนด์ 2 มิติ 3 มิติ และ 4 มิติ…ต่างกันอย่างไร
view 3,553
ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางการแพทย์ ได้มีการพัฒนาเครื่องตรวจทำอัลตราซาวนด์อยู่เรื่อยๆ จากอัลตราซาวนด์ 2 มิติ อัลตราซาวนด์ 3 มิติมาเป็น 4 มิติ คุณแม่คงอยากรู้ว่าอัลตราซาวนด์ 2-3-4 มิติ แตกต่างกันอย่างไร
อัลตราซาวนด์ 2 มิติ ภาพที่ได้คือ ความกว้างและความยาว เป็นภาพตัดขวางตามแนวคลื่นเสียงความถี่สูงที่ส่งออกไป ซึ่งจะสามารถมองเห็นได้ทีละระนาบในแต่ละครั้ง ภาพที่มองเห็นเป็นภาพตัดขวางจะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการวินิฉัยถึงความผิดปกติต่างๆได้ดี ซึ่งแพทย์จะนิยมใช้ภาพ 2 มิตินี้ในการตรวจเป็นมาตรฐาน แต่ภาพที่เห็นลักษณะนี้จะดูและเข้าใจได้ยากโดยคนทั่วๆไป พ่อแม่ก็มักดูไม่รู้เรื่อง
อัลตราซาวนด์ 3 มิติ หัวตรวจและอุปกรณ์ประมวลผลจะมีความซับซ้อนมากขึ้น เครื่องจะทำหน้าที่เก็บภาพ 2 มิติ คือ ความกว้างและความยาว แต่จากนั้นหัวตรวจจะถูกลากผ่านไปมาแล้วนำมาประกอบกันขึ้นสร้างเป็นภาพ 3 มิติ ส่วนการเก็บภาพมิติที่ 3 คือ ความลึกทำให้ภาพของทารกที่ปรากฏออกมาดูเหมือนจริงมากขึ้น พ่อแม่สามารถดูได้เข้าใจมากขึ้น
อัลตราซาวนด์ 4 มิติ มีการประมวลผลซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เป็นการนำภาพ 3 มิติ มาเรียงกัน แสดงผลเป็นภาพเคลื่อนไหว ทำให้เห็นภาพของทารกในครรภ์ในอิริยาบถต่าง ๆ เช่น การหันหน้า ยกแขน ขยับตัว ดูดนิ้วได้ สามารถมองเห็นอวัยวะภายนอกของทารกในครรภ์ได้ชัดเจนกว่าการตรวจด้วยอัลตราซาวนด์ 2 มิติ เช่น ใบหน้า แขน ขา นิ้วมือ พ่อแม่จึงสามารถมองภาพได้เข้าใจมากขึ้น เห็นความผิดปกติของทารกภายนอกพื้นผิวได้ชัดเจนมากขึ้น แต่การใช้ภาพ 4 มิติจะไม่สามารถมองเห็นความผิดปกติภายในได้
แน่นอนว่าราคาย่อมแตกต่างกันไปตามประสิทธิภาพ คุณแม่จึงต้องปรึกษาคุณหมอและพิจารณาความจำเป็นเพื่อประกอบการตัดใจว่าจะอัลตราซาวนด์กี่ครั้งและแบบไหนดี