เพิ่มพัฒนาการลูกผ่านชีวิตประจำวันได้อย่างไร
view 2,731
 |
แม้จะเป็นวัยที่ลูกเริ่มเตาะแตะ หัดเดิน และเรียนรู้ภาษาได้มากขึ้น แต่เขายังคงเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัส เพราะฉะนั้นการกระตุ้นประสาทสัมผัสในชีวิตประจำวันยังจำเป็น และเป็นฐานที่สำคัญในการต่อยอดกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ให้ลูกน้อย เช่น กระตุ้นการฟัง ด้วยเสียงเพลง หรือนิทาน กระตุ้นการได้กลิ่น ด้วยการสอนให้ลูกแยกแยะ กลิ่นหอม-เหม็น เช่น ให้ลูกลองดมกลิ่นเสื้อที่หอมสะอาด กลิ่นดอกไม้ ผลไม้ หรือเวลาที่ลูกนั่งกระโถนแล้วได้กลิ่นเหม็น หรือเดินผ่านถังขยะแล้วได้กลิ่นเหม็น เป็นต้น ลูกวัยนี้สามารถเรียนรู้เรื่องเย็น-ร้อน อ่อน-แข็ง เรียบ-สาก ฯลฯ ได้จากการสัมผัสได้แล้ว การหาของเล่นที่มีผิวสัมผัสแตกต่างกัน หรือแม้แต่สิ่งของรอบๆ ตัวก็สามารถกระตุ้นการรับรู้นี้ได้ เช่นเดียวกับความสามารถในการแยกแยะรสชาติต่างๆ เช่น เปรี้ยว หวาน เค็ม ซึ่งคุณแม่อาจหาผลไม้ที่มีรสชาติต่างกันไปให้ลูกลองชิม รวมไปถึงการเปิดโลกกว้างให้ลูกวัยนี้ได้เห็นสิ่งต่างๆ รอบตัวได้มากขึ้นกว่าการอยู่แต่ในบ้าน |
ดังนั้นในแต่ละวัน พยายามให้ลูกได้ใช้ประสาทสัมผัสพิเศษทั้ง 5 คือรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ในการทำความรู้จักกับสิ่งต่างๆ และแยกแยะลักษณะเฉพาะของสิ่งต่างๆ ได้ เพื่อให้เข้าใจลักษณะต่างๆ ได้ดีขึ้น เช่น เปียกกับ แห้ง ร้อนกับ เย็น ใหญ่กับเล็ก มากกับน้อย แข็งกับนุ่ม ข้างในกับข้างนอก ความสว่างกับความมืด ดีใจกับเสียใจ สูงกับต่ำ บนกับล่าง ฯลฯ และที่สำคัญอีกอย่างคือการเป็นเหตุเป็นผลกัน เช่น การเปิดก๊อก แล้วมีน้ำไหล การเอาน้ำใส่กาไปตั้งบนเตา น้ำก็ร้อน เมื่อเอาไปใส่ไว้ในตู้เย็น น้ำก็เย็น ฯลฯ การพยายามชี้แนะลูกให้มองและรับรู้เกี่ยวกับสีสันและรูปร่าง เช่น ทรงกลม,โค้ง, เหลี่ยม ฯลฯ เสียงดังเสียงค่อย กลิ่นหอมกลิ่นเหม็น ก็จะช่วยให้ลูกเข้าใจและเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น
