เรียนรู้ดนตรีผ่านกิจวัตรประจำวันของเด็ก
view 2,539
การนำดนตรีเข้าไปประกอบกับกิจวัตรประจำวัน เช่น ตอนอาบน้ำตอนนอน หรือตอนเดินทาง เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาพื้นฐานทางดนตรีที่ดีให้กับเด็กตั้งแต่เล็กๆ ได้ ขั้นแรก คุณพ่อคุณแม่ต้องเลือก “เพลงประจำ” สำหรับกิจกรรมนั้นก่อน คุณสมบัติของเพลงที่เหมาะสม ควรเป็นเพลงที่มีความยาวไม่มากนัก และมีเนื้อร้องง่ายๆ จะเป็นเพลงเด็กที่เรารู้จักกันดีอยู่แล้ว หรือจะแต่งขึ้นมาใหม่ก็ได้
ตัวอย่าง : หากเป็นกิจวัตรตอนอาบน้ำ เพลงที่เลือกคือ "เป็ดอาบน้ำ"
เนื้อร้อง “ก้าบ ก้าบ ก้าบ เป็ดอาบน้ำในคลอง ตาก็จ้องแลมอง เพราะในคลองมีหอยปูปลา”
|
กิจกรรม – คุณพ่อคุณแม่ร้องเพลงเป็ดขณะที่อาบน้ำกับลูก เราจะสังเกตได้ว่า เพลงนี้มีคำซ้ำกันอยู่ 3 คำ ก็คือ เสียงเป็ดร้องนั่นเอง เวลาที่ร้องคำนั้นให้ทำเอาปลายนิ้วมือจับที่ท้องตามจังหวะ 3 ครั้งตามคำร้อง กิจกรรมเข้าจังหวะเช่นนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามพัฒนาการตามช่วงวัย เช่น กำมือ แบมือ หรือตบมือพร้อมกัน เราเล่นกับเด็กไปด้วยเพื่อกระตุ้นความสนใจในการฟังเพลง และทำซ้ำบ่อยๆ ทุกวัน จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านจังหวะให้เด็กได้เป็นอย่างดี อุปกรณ์ช่วยเสริม – ตุ๊กตาหรือรูปติดฝาผนังห้องน้ำที่มีความเกี่ยวเนื่องกับเพลง เช่น เป็ด ใช้โดยการชี้ให้มองตามเนื้อร้อง หรือนำมาเล่นกับเด็กด้วย เพื่อเสริมด้านความเข้าใจทางภาษา และให้เห็นเป็นภาพหรือจับต้องได้ จะช่วยในการจำเนื้อร้องได้อย่างดี |
 |
การร้องเพลงที่ผสมกับการเล่นเป็นการเริ่มต้นใช้ดนตรีกับเด็กอย่างถูกต้อง และเป็นอีกหนึ่งวิธีในการจัดสภาพแวดล้อมทางดนตรีที่ดีให้กับเด็ก เนื่องจากเป็นการแนะนำและกระตุ้นให้เด็กรู้จักการฟังเพลง โดยใช้เพลงเดิมซ้ำแต่เปลี่ยนกิจกรรมไปเรื่อยๆ จะช่วยให้เด็กรู้สึกสนุกสนานไปกับดนตรีก่อนที่จะถึงวัยที่เด็กพร้อมที่จะเข้าไปเรียนดนตรีได้ ซึ่งช่วงวัยที่เหมาะสมที่สามารถพาลูกไปเรียนดนตรี เฉลี่ยแล้วมักจะเริ่มต้นที่ประมาณ 3 ขวบขึ้นไป เนื่องจากเด็กมีพัฒนาการด้านร่างกายที่เอื้อต่อการทำกิจกรรมในห้องเรียนได้แล้วนั่นเอง แต่ก่อนถึงเวลานั้น ให้ลูกสนุกกับจังหวะผ่านการเล่นเพื่อวางพื้นฐานก่อนค่ะ
