อย่าให้ลูกกลัวการกิน เพราะสำลักอาหาร
view 2,904
ส่วนใหญ่เวลาเด็กสำลักอาหาร มักเป็นเพราะเด็กวิ่ง หกล้ม เล่น หัวเราะ ร้องไห้ หรือตกใจ โดยที่มีอาหารอยู่ในปาก ทำให้สูดเอาอาหารลงหลอดลมอย่างรวดเร็ว โดยฝาปิดกล่องเสียงทำงานไม่ทัน โดยอาหาร 10 อันดับแรกที่พบว่าเด็กอายุน้อยกว่า 5 ขวบสำลักบ่อยที่สุดคือ องุ่น ไส้กรอก ลูกอม ถั่วลิสง คุกกี้ หมูสับหรือหมูชิ้น แครอตดิบ และแอปเปิ้ลหั่นเป็นชิ้น
การสังเกตว่าลูกสำลักสิ่งแปลกปลอมนั้น คุณแม่จะดูได้จากขณะกินอาหารหรือป้อนผลไม้ ลูกจะมีอาการสำลัก ไอ พูดไม่ออกหรือหายใจลำบากขึ้นมาทันทีทันใด ถ้าสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ที่กล่องเสียง (ใต้คอหอย) จะทำให้มีอาการเสียงแหบ หายใจเสียงดังคล้ายกับคนที่เป็นคอตีบ ถ้าสิ่งแปลกปลอมมีขนาดใหญ่จนปิดกั้นทางเดินหายใจ จะมีอาการหน้าเขียว เล็บเขียว หากช่วยไม่ทันภายใน 4 นาทีสมองจะตาย หมดสติ และอาจเสียชีวิตได้
พบว่า 9 ใน10 ครั้งของการสำลัก เด็กจะไอเอาอาหารออกมาแล้วอาเจียน หรือกลืนลงไปได้เอง หากลูกขย้อนอาหารออกมาไม่ได้ คุณแม่เห็นว่าอาหารติดอยู่ตรงไหนให้ใช้นิ้วชี้กวาดออกมา หากมองไม่เห็น ให้อุ้มลูกนอนคว่ำบนตัก ศีรษะต่ำกว่าลำตัว ใช้ส้นมือทุบแรงๆ ที่หลังบริเวณระหว่างสะบัก 4-5 ครั้ง ส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้น
การสำลักอาหารอาจเป็นสาเหตุให้ลูกรู้สึกกลัวการกินอาหารชนิดนั้นๆ เพราะเกรงว่าจะเกิดขึ้นอีก ส่งผลต่อทัศนคติของเขาต่อการกินได้ ซึ่งเป็นการทำให้ลูกเสียโอกาสที่จะได้กินอาหารที่หลากหลายไป ดังนั้นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการไม่ให้ลูกเกิดอาการสำลักอาหาร จึงอยู่ที่การรู้จักป้องกัน โดยเมื่อถึงเวลาอาหารก็ต้องให้ลูกนั่งกับที่ ไม่ควรให้เขาเดิน หรือวิ่งไปกินไปทั้งที่อาหารเต็มปาก ไม่ให้ลูกเล่นขณะกิน และควรตัดอาหารเป็นชิ้นเล็กให้พอดีคำ รวมทั้งต้องสอนลูกให้รู้จักเคี้ยวอาหารให้ละเอียด ซึ่งคือการสร้างนิสัยที่ดีในการกินให้ลูกนั่นเอง