Enfa Smart Club

อาการแพ้ท้อง เรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในช่วงท้องอ่อนๆ และนี่คือวิธีรับมือ   

เมื่อรู้ตัวว่ามีอาการแพ้ท้อง ควรดื่มน้ำมากๆ แต่อย่าดื่มร่วมกับอาหารหรือหลังอาหารทันที ให้ดื่มน้ำก่อนหรือหลังอาหารสัก 30 นาที และระหว่างวันให้จิบน้ำบ่อยๆ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการขาดน้ำ เมื่อมีอาการแพ้ท้อง หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีอุณหภูมิร้อนหรือเย็นจัด หรือถ้าเครื่องดื่มทำให้ท้องไส้ปั่นป่วน ลองรับประทานผักผลไม้แทน เช่น แตงโม ผักกาดหอม ซึ่งจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่มากค่ะ เมื่อแพ้ท้องควร หลีกหนีให้ไกลจากกลิ่นที่ทำให้ท้องของคุณแม่ปั่นป่วน หากจำเป็นต้องปรุงอาหาร ให้เปิดหน้าต่างหรือเปิดพัดลมดูดกลิ่นค่ะ สำหรับคนแพ้ท้อง แม้จะไม่รู้สึกหิว คุณแม่ก็ควรพยายามบังคับตัวเองให้รับประทาน เพราะการที่ท้องว่างจะทำให้อยากอาเจียนได้ง่ายกว่าเมื่อมีอาหารอยู่ในท้องค่ะ คุณแม่อาจรับประทานอาหารในแต่ละมื้อได้ไม่มาก ให้แบ่งอาหารเป็นมื้อย่อยๆ แต่รับประทานหลายๆ มื้อแทน อาจจะแบ่งมื้ออาหารเป็น 5-6 มื้อต่อวันเลยก็ได้  จะช่วยให้ได้รับอาหารเพียงพอต่อความต้องการค่ะ แม่มือใหม่กับอาการแพ้ท้องเริ่มต้น ควรรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงบางชนิด อาจทำให้อาการแพ้ท้องแย่ลง ไม่สบายท้อง เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู คนแพ้ท้องอาจลองรับประทานเนื้อปลา ไข่ต้มสุกแทน ก็จะช่วยให้ดีขึ้นได้ แม่ที่กำลังแพ้ท้องควร หลีกเลี่ยงอาหารมันและรสเผ็ด หรืออาหารรสจัด มีเครื่องเทศมาก เนื่องจากทำให้เกิดอาการจุกเสียดแน่นหน้าอกได้ง่าย ดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองให้ดี อย่าปล่อยให้ท้องว่างนานเกินไป หากรู้สึกหิว คนที่มีอาการท้อง ควรหาอาหาร หรือของว่างรับประทาน  คุณแม่จึงควรมีขนม ของขบเคี้ยวที่มีโปรตีนสูงไว้ใกล้มือ เพื่อหยิบรับประทานได้ง่าย เช่น ขนมจำพวกถั่ว ,เครื่องดื่ม หรือขนมที่ทำจากถั่วเหลือง ทานของว่างที่มีรสเค็มนิดๆ ก่อนมื้ออาหารเพื่อช่วยปรับสภาพท้อง

• กับอาการแพ้ท้อง จะดีมากถ้าคุณแม่ก่อนเข้านอนตอนกลางคืน หาขนมปังจืดหรือขนมปังกรอบธัญพืชทานสัก 1-2 ชิ้น เพื่อไม่ให้ท้องว่างนานเกินไป หรือควรรับประทานอาหารเบาๆ เช่น แครกเกอร์ หรือเครื่องดื่มอุ่นๆ ก่อนนอน จะทำให้หลับสบาย และควรเตรียมไว้ที่ใกล้ๆ เตียงด้วย เพื่อตอนเช้าตื่นขึ้นมา ก็ควรดื่มเครื่องดื่มที่เตรียมไว้ หรือรับประทานแครกเกอร์เมื่อตื่นนอนขึ้นทันทีก่อนลุกจากเตียงไปทำกิจวัตรประจำวัน เพราะหากลุกตอนท้องว่างจะทำให้วิงเวียนได้