กิจกรรมภาษา เพื่อพัฒนาลูกในท้อง
view 5,226
- จ๊ะจ๋ากับลูก
เหมาะสำหรับ : 18 เดือนขึ้นไป ให้เรียกลูกและคุยแต่เรื่องดีๆ ให้ฟัง เช่น “แม่รักลูกมากนะจ๊ะ” หรือ “วันนี้ลูกสบายดีหรือเปล่าจ๊ะ” เวลาคุยก็ให้ใช้น้ำเสียงนุ่มนวล ย้ำคำหรือประโยคเดิมซ้ำบ่อยๆ นะคะ จะทำให้ลูกจำเสียง คำ ประโยคนั้นได้
ดีกับเจ้าตัวเล็กอย่างไร : ช่วงนี้ระบบประสาทการรับเสียงของลูกพัฒนาแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นก็จะได้ยินเสียงคุณแม่ได้ วิธีนี้จะช่วยให้ระบบประสาทและสมอง ที่ควบคุมการได้ยินของลูกพัฒนาการได้ดีขึ้น และเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับพัฒนาการด้านภาษาของลูกหลังคลอดด้วย
- ฟังนิทานกันนะลูก
เหมาะสำหรับ : 18 สัปดาห์ขึ้นไป คุณแม่ลองอ่านหนังสือเล่มที่ชอบ หรือเล่านิทานสนุกๆ ให้ลูกฟัง แต่อย่าลืมใช้น้ำเสียงที่มีจังหวะและใส่อารมณ์ร่วมเข้าไปด้วย
ดีกับเจ้าตัวเล็กอย่างไร : ช่วยให้ระบบประสาทและสมองที่ ควบคุมการได้ยินเสียงมีพัฒนาการที่ดีขึ้น และเป็นการเตรียม ความพร้อมสำหรับการได้ยินหลังคลอดไปพร้อมๆ กับการเรียนรู้ ด้านภาษาหลังคลอดด้วยนะคะ
- พ่อแม่ลูกคุยกัน
เหมาะสำหรับ : 18 สัปดาห์ขึ้นไป ระหว่างวันให้คุณแม่เล่าเรื่องราวของคุณพ่อให้ฟังบ้างอย่าง “ลูกรู้ไหมจ๊ะคุณพ่อรักลูกมากนะ นี่ก็เพิ่งซื้อนิทานมาให้แม่ให้ อ่านลูกฟัง ” ส่วนคุณพ่อก็คุยกับลูกได้บ่อยๆ เหมือนกันนะคะ ทั้งทักทาย หยอกเย้าและลูบหน้าท้องคุณแม่เบาๆ และคุย พร้อมๆ กัน อาจเริ่มด้วยคุยแม่คุยกับลูกสัก 5 นาที แล้วต่อด้วย คุณพ่ออีก 5 ที แล้วอย่าลืมบอกลูกด้วยว่า “นี่แม่พูดนะจ๊ะ” “นี่พ่อพูดจ๊ะ”
ดีกับเจ้าตัวเล็กอย่างไร : ช่วยพัฒนาเซลล์สมองของเจ้าตัวเล็ก เป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้างสภาพแวดล้อม ที่มีผลต่อการพัฒนาสมองของเจ้าตัวเล็ก
- สวดมนต์กับลูก
เหมาะสำหรับ : 1-9 เดือน คุณแม่สวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน นอกจากตัวจิตใจจะสงบแล้ว ยังช่วยให้ลูกคุ้นกับเสียงของคุณแม่ด้วยนะคะ
ดีกับเจ้าตัวเล็กอย่างไร : การที่ลูกได้ยินเสียงเราในเวลาที่ เงียบสงบจะทำให้ลูกฟังเสียงอย่างสงบไปด้วย รู้สึกมีความสุข และเป็นผลดีกับวงจรการทำงานของสมองเจ้าตัวเล็กค่ะ
Tips :
- เวลาคุยกับลูกควรทำจิตใจและน้ำเสียงให้สดใสเข้าไว้นะคะ
- เรียกชื่อลูกช้าๆ และทักลูกด้วยความรักเสมอ เช่น “ลูกจ๋า แม่รักหนูรู้ไหม”
- ลองใช้เสียงสูงๆ คุยกับลูก ช่วยเรียกความสนใจได้ค่ะ
- เวลาอ่านหนังสือหรือนิทานให้ใช้น้ำเสียงสูงๆ ต่ำๆ เป็นจังหวะ
- คุยแต่เรื่องดีๆ ของคุณพ่อให้ลูกฟัง
- ไม่ใช่แค่คุณแม่คนเดียวที่คุยกับลูก แต่คุณพ่อควรมีส่วนร่วมในการคุยกับลูกบ่อยๆ ด้วย เช่น บอกลูกว่า “เดี๋ยวพ่อเปิดเพลงให้ ฟังนะจ๊ะ”