คุณค่าของดนตรีกับเด็กๆ
view 4,346
ดนตรี เป็นปัจจัยที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านไอคิว เพราะด้วยท่วงทำนอง และจังหวะของดนตรีที่เด็กได้ฟังตั้งแต่ในครรภ์อย่างต่อเนื่อง จะมีผลโดยตรงต่อการพัฒนาสมองในส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบความคิด และการวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล อันเป็นพื้นฐานของการเรียนรู้
จากการศึกษามากมายในปัจจุบันพบว่า การให้เด็กฟังดนตรีตั้งแต่เล็กๆ มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นสมองส่วนที่ควบคุมด้านสติปัญญา ทั้งด้านความคิดแบบมิติสัมพันธ์ การอ่าน การเขียน การคิดอย่างมีเหตุผลของเด็ก รวมทั้งความสนใจ ความจำ ทำให้เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสทุกส่วนพร้อมกัน
สำหรับลูกวัย 6-12 เดือนนั้น ประสบการณ์ด้านดนตรีของเขาเริ่มต้นจาก "การฟัง" เพราะเด็กจะได้ยินเสียง เสียงเป็นภาษาของดนตรี และดนตรีเป็นภาษาของเสียง เด็กก็จะได้เรียนรู้และรู้จักเสียงชนิดต่างๆ จำแนกเสียงได้ เช่น เสียงสูง เสียงต่ำ เสียงดัง เสียงเบา เสียงสั้น เสียงยาว เสียงใส เสียงแหบ เสียงผู้หญิง เสียงผู้ชาย เสียงเด็ก เสียงคนแก่ เป็นต้น เด็กสามารถที่จะเรียนรู้เสียงและจำเสียงได้ ยิ่งเสียงที่ได้ยินบ่อยๆ ฟังซ้ำๆ ก็จะรู้จักเสียงและคุ้นเคยกับเสียงที่ได้ยินนั้น
คุณค่าของดนตรีกับลูกน้อย
- ให้ความสนุกสนาน และเพลิดเพลินกับเด็ก
- กระตุ้นการเคลื่อนไหว ซึ่งมีความสำคัญต่อเด็กเล็กเป็นอย่างมาก เพราะเป็นวัยต้องพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวอย่างยิ่ง
- ช่วยสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างคุณพ่อคุณแม่กับลูก การเต้นรำ การออกท่าออกทาง การเคลื่อนไหวไปตามท่วงทำนองที่สนุกสนาน นับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่คุณจะได้สนุกสนานกับลูกน้อย
- ช่วยลดความตึงเครียดกล้ามเนื้อ ช่วยให้เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วขึ้น เพราะเส้นประสาทการรับฟังจะเชื่อมโยงหูชั้นในกับกล้ามเนื้อทุกมัดของร่างกาย เสียงและแรงสั่นสะเทือนตามจังหวะดนตรีจึงส่งอิทธิพลต่อความยืดหยุ่น กระชับ และแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
- เพิ่มระดับของเอนดอร์ฟิน (endorphin) ช่วยลดความเครียด ทำให้รู้สึกสงบและเป็นสุข
- ช่วยให้มีสมาธิ โดยเฉพาะการเปิดเพลงคลาสสิกเบาๆ ช่วยเพิ่มความสามารถในการจดจำ ทำให้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น และดนตรียังช่วยให้คลื่นสมองสามารถเรียบเรียงความคิด พัฒนาการใช้เหตุผล และมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นด้วย
ลูกวัย 6-12 เดือนนั้น จะเรียนรู้จังหวะ และมีพัฒนาการทางภาษาที่มากขึ้น และเริ่มออกเสียงเป็นพยางค์ได้บ้างแล้ว ขยับตัว และหันศีรษะได้ตามจังหวะดนตรี และพยายามที่จะร้อง หรือเลียนแบบเสียงต่างๆ ที่ได้ฟัง เพลงที่มีเนื้อร้องสั้นๆ ง่ายๆ หรือที่มีจังหวะคล้องจอง ร้องง่าย เช่น เพลง Twinkle Little Star เพลง ABC เพลงช้าง ฯลฯ จึงเหมาะกับลูก