ตอนที่ 6 นมแม่ ดีแท้ต่อสมองลูก
view 3,699
จากการวิจัยพบว่าช่วงเวลาตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนอายุ 3 ปี รวมระยะเวลา 1,365 วัน สมองของเด็กจะมีการเจริญเติบโตถึง 80% มีการแบ่งตัวและสร้างเป็นเซลล์ประสาทนับล้านๆ เซลล์ และพบว่าทารกแรกเกิดมีน้ำหนักสมองประมาณ 340 กรัม เมื่อย่างเข้า 1 ปีแรก น้ำหนักสมองจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,100 กรัม ซึ่งเพิ่มมาขึ้นถึง 3 เท่าตัว น้ำหนังสมองที่เพิ่งขึ้นในอัตราที่น่าอัศจรรย์นี้ เกิดจากเซลล์สมองขยายขนาดและสร้างเส้นใยประสาทเพื่อเชื่อมต่อให้เกิดการสื่อสารระหว่าเซลล์สมอง พบว่าจุดเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมองที่เกิดจากการมองเห็นเพิ่มจาก 2,500 จุดต่อ 1 เซลล์ เป็น 18,000 จุด เมื่อลูกอายุได้ 6 เดือน เป็นต้น
จุดเชื่อมต่อเหล่านี้เกิดขึ้นจำนวนมากและรวดเร็ว ถ้าได้รับการเลี้ยงดูที่เหมาะสม ได้รับอาหารที่ดี ซึ่งในเด็กทารกอาหารที่ดีที่สุดคือ “นมแม่” ซึ่งอุดมไปด้วย ดีเอชเอและเออาร์เอ ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของสมองเด็ก
ดีเอชเอและเออาร์เอที่เพียงพอ มีส่วนช่วยส่งเสริมกระบวนการคิดวิเคราะห์ในเด็ก
มีงานวิจัยที่เกี่ยวกับปริมาณดีเอชเอและเออาร์เอที่ส่งผลต่อพัฒนาการทางสมองและสติปัญญาของเด็กออกมามากมาย เช่น เด็กที่ได้รับดีเอชเอ และเออาร์เออย่างเพียงพอ จะมีระดับสติปัญญาสูงกว่า และมีระดับการมองเห็น (ซึ่งเป็นหนทางนำไปสู่การเรียนรู้ที่ดีต่อไป) ดีกว่าเด็กที่ได้รับดีเอชเอและเออาร์เอไม่เพียงพอ เป็นต้น
ล่าสุด มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า ทารกที่ได้รับนมแม่ที่มีปริมาณดีเอชเอ 17 และเออาร์เอ 34 ม.ก. / 100 กิโลแคลอรี่ มีทักษะการคิดเพื่อการแก้ปัญหาที่ดีกว่า งานวิจัยนี้ได้ถูกตีพิมพ์ลงในวารสารทางการแพทย์ และแสดงให้เห็นว่า ทารกวัยเพียง 9 เดือน มีกระบวนการคิดวิเคราะห์ สังเกต และเรียนรู้ที่ดี จนสามารถแก้ปัญหาที่อยู่ตรงหน้าได้สำเร็จ มีทารกวัย 9 เดือนเข้าร่วมงานวิจัยจำนวน 229 คน ทีมวิจัยใช้วิธีการทดสอบที่เรียกว่า 2-Step Means End Problem Solving : (MEPS) Test โดยได้นำของเล่นวางบนผ้า
ให้ห่างจากตัวเด็ก แล้วนำผ้าอีกผืนคลุมของเล่นไว้ แล้วให้เด็กหาของเล่นนั้น ผลการวิจัยพบว่า เด็กทารกกลุ่มที่ได้รับดีเอชเอ 17 และเออาร์เอ 34 ม.ก. / 100 กิโลแคลอรี่ มีความสามารถดึงผ้าเข้าหาตัวเปิดผ้าที่คลุมของเล่นไว้ และพบของเล่นที่ถูกซ่อนไว้ได้ดีกว่าทารกกลุ่มที่ได้รับนมที่ไม่มีดีเอชเอ และเออาร์เอ
"นมแม่ ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย มี้ด จอห์นสัน สนับสนุนการให้นมบุตรมากที่สุดและนานที่สุด", ข้อมูลเพิ่มเติม www.thaibreastfeeding.org