นอนกลางวัน...สำคัญต่อพัฒนาการลูกน้อยอย่างไร ?
view 6,763
การนอนหลับ นอกจากจะเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดแล้ว ยังเป็นช่วงที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตทางร่างกายด้วย มีการศึกษาพบว่าช่วงที่หลับสนิทนั้น ฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโต (Growth Hormone) นั้นจะหลั่งออกมามาก การนอนหลับจึงดีต่อสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเด็กๆ ที่กำลังเจริญเติบโตด้วยแล้ว ต้องนอนให้เพียงพอค่ะ
เด็กวัย 1-3 ขวบ ส่วนใหญ่จะนอนประมาณ 12 ชั่วโมง และลดลงเหลือ 11 ชั่วโมงเมื่ออายุ 3-5 ขวบ เพราะฉะนั้นหากลูกน้อยนอนหลับเต็มอิ่ม 12 ชั่วโมงในตอนกลางคืนแล้ว ตอนกลางวันลูก อาจจะไม่อยากนอนยาวอย่างที่พ่อแม่ต้องการ อีกอย่างหากเด็กนอนมากกว่าที่ร่างกายต้องการแล้ว พ่อแม่อาจต้องปวดหัวกับการไม่ยอมนอนกลางคืนของลูก ในทางกลับกัน หากบางครั้งมีเหตุให้ลูกไม่ได้นอนกลางวัน ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า จะส่งผลให้ระบบการนอนภายในร่างกายของลูกยุ่งเหยิงไปหมด เพราะร่างกายปรับแล้วว่า ช่วงนี้ของวันคือช่วงที่ร่างกายต้องนอน เมื่อถึงเวลาร่างกายจะส่งสัญญาณให้ลูกสัปหงก นั่นแสดงว่าแกต้องการนอนกลางวัน แต่หากมีสิ่งใดมารบกวนทำให้แกไม่ได้นอน โดยเฉพาะเด็กวัยนี้อยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็น อยู่ไม่นิ่งเสียด้วยสิ บางครั้งลูกจึงไม่ได้นอน อย่างที่ร่างกายต้องการ ผลที่ออกมาก็คือ แกจะมานอนยาวในช่วงถัดมา และพร้อมที่จะตื่นขึ้นมา เล่นอย่างสดชื่นในตอนกลางคืน (ซึ่งเป็นเวลานอนของพ่อแม่) การไม่นอนกลางวันของลูก จึงก่อให้เกิดปัญหาน่าปวดหัวกับพ่อแม่อย่างนี้ล่ะค่ะ |
เราจึงควรให้ลูกได้นอนกลางวัน เพราะจะดีต่อพ่อแม่ และดีต่อพัฒนาการและการเรียนรู้ของลูก พบว่าเด็กอดนอนนั้นจะมีความอยากรู้อยากเห็นน้อยลง รวมถึงใช้ไหวพริบปฏิภาณในการเล่นได้น้อยลงด้วย การวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่า การนอนหลับไม่เพียงพอนั้น ส่งผลต่อการแสดงออกถึงความรู้สึกต่างๆ ในเด็ก และนานวันไปจะยิ่งส่งผลต่อสมองที่ควบคุมด้านอารมณ์ และทำให้ความเสี่ยงที่สุขภาพจิตจะมีปัญหานั้นเพิ่มสูงขึ้น...รู้อย่างนี้อย่ามองข้ามการให้ลูกนอนกลางวันนะคะ