ฝึกลูกช่วยเหลือตัวเอง ''ได้'' มากกว่าที่คิด
view 3,741
หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตจะเห็นว่า เด็กทุกคนเริ่มพัฒนาความสามารถด้านต่างๆ เพื่อนำไปสู่การช่วยเหลือตัวเองได้ตั้งแต่เล็กๆ เช่น เริ่มชันคอได้เพื่อพลิกคว่ำพลิกหงาย พลิกคว่ำพลิกหงายได้เพื่อให้นั่งได้ และนั่งได้เพื่อคืบคลานหรือเกาะยืน เกาะเดินได้ แต่เขาเริ่มแสดงให้พ่อแม่เห็นชัดเจนว่าเขาเริ่มช่วยเหลือตัวเองได้แล้วเมื่ออายุประมาณ 1 ปี จากการที่เขาสามารถเกาะยืน เกาะเดินได้เอง กินข้าวกินน้ำได้เองบ้าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องการโอกาสจากพ่อแม่ในการฝึกทักษะเหล่านี้
- อายุ 1 ปี ลูกจะเริ่มเดินได้ หยิบจับข้าวของได้ถนัดขึ้น คุณพ่อคุณแม่จึงต้องฝึกให้ลูก...
- เดินเอง
- กินอาหารด้วยการจับช้อนกินเอง คุณพ่อคุณแม่อาจช่วยป้อนบ้างเพื่อให้ลูกได้รับอาหารที่เพียงพอ
- อายุ 2 ปี เด็กเริ่มทำอะไรด้วยตัวเองได้มากขึ้นคุณพ่อคุณแม่ควรฝึกให้ลูก…
- ถอดเสื้อคอกลม กางเกงยางยืด
- อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายได้บ้าง
- ล้างมือล้างไม้ได้เอง
- ถอดรองเท้าแบบสวมที่ไม่ต้องผูกเชือกได้เอง
- ฝึกแปรงฟันเอง
- กินอาหารได้เอง
- ฝึกให้ช่วยเหลือคุณพ่อคุณแม่หรือผู้อื่นได้บ้าง และให้ช่วยงานง่ายๆ เช่น หยิบของให้คุณพ่อคุณแม่
- อายุ 3 ปี จากที่เคยทำอะไรได้นิดๆ หน่อยๆ ก็จะทำได้ดีขึ้นอีกระดับหนึ่ง คุณพ่อคุณแม่จึงต้องสนับสนุนให้ลูกทำอะไรด้วยตัวเองอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น...
- สวมเสื้อยืดคอกลม กางเกงยางยืดด้วยตัวเอง
- อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายได้สะอาดขึ้น
- แปรงฟันได้สะอาดขึ้น
- สวมรองเท้าที่ไม่ผูกเชือกได้เอง
- ช่วยเหลือคนอื่นได้มากขึ้น
ช่วยเหลือตัวเอง "ได้" มากกว่าที่คิด
การฝึกให้ลูกช่วยเหลือตัวเองได้ นอกจากเป็นการฝึกทักษะด้านต่างๆ ยังฝึกให้ลูกได้รับการเรียนรู้ผ่านกิจวัตรประจำวันและทำให้เขามีระเบียบวินัยมากขึ้น เช่น รู้ว่าต้องกินข้าวเวลาไหน รวมถึงการช่วยเหลือตัวเองอย่างเหมาะสมตามวัย การแก้ปัญหาทักษะทางสังคมส่งเสริมความมั่นใจในตัวเองทำให้ลูกกล้าแสดงออก และไม่กลัวกับการต้องเรียนรู้สังคมใหม่ๆ การช่วยเหลือตัวเองอย่างเหมาะสมในช่วงเล็กๆ ในช่วงวัย 2-3 ปีแรก ยังช่วยส่งเสริมและกระตุ้นการเชื่อมโยงเครือข่ายการทำงานในสมอง ทำให้สมองในส่วนที่มีการใช้งานพัฒนาตัวเองมากขึ้นและเชื่อมต่อกับสมองส่วนอื่นๆ ได้ดีขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญอยู่ที่พ่อแม่ที่ต้องมีความสม่ำเสมอในการฝึก ต้องอดทนและหนักแน่น