แม้ว่าทีวีคือความบันเทิงที่หาได้ภายในบ้าน และลูกทำได้เอง ซึ่งพ่อแม่บางคนอาจรู้สึกว่าดี เพราะลูกไม่มากวนเวลาตัวเอง แต่การดูทีวีมากไป จะเกิดโทษมากกว่าประโยชน์ โดยเฉพาะกับเด็กๆ เพราะฉะนั้น การหาทางให้ลูก “ห่าง” ทีวีเสียบ้าง จึงเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้ามค่ะ
ภายในบ้านของเรา ลองช่วยกัน, วาไรตี้กำหนดให้วันใดวันหนึ่งในสัปดาห์เป็น "วันปิดทีวี" ชวนกันลุกจากหน้าจอแล้วออกไปทำกิจกรรมอื่นๆ กัน ซึ่งกิจกรรมที่นอกเหนือจากการดูทีวีมีตั้งเยอะ ไม่ว่าจะเป็น...
|
- เล่านิทาน อ่านหนังสือกัน นี่แหละกิจกรรมชั้นยอด แต่ต้องอาศัยเวลาของพ่อแม่ในการมาอ่านหนังสือกับลูก แต่รับรองว่าดีกับลูก เพราะเขาได้ใกล้ชิดพ่อแม่ และนิทานแต่ละเรื่องนั้นเด็กๆ ต้องใช้พลังในการจินตนาการ ขณะเดียวกันนั้นเซลล์สมองของเด็กก็จะมีพัฒนาจุดเชื่อมต่อเพิ่มมากขึ้น ยิ่งได้ฟังซ้ำๆ การเชื่อมต่อนั้นก็ยิ่งมีประสิทธิภาพและมั่นคงมากขึ้น นั่นหมายถึงความสามารถในการคิด การเรียนรู้ และการจินตนาการก็มีมากขึ้นด้วย แถมยังปลูกฝังเด็กๆ เรื่องศีลธรรม จริยธรรมได้ด้วย
- ไปเล่นในสนามกันดีกว่า การที่ลูกได้วิ่งเล่นในพื้นที่กว้าง หรือปีนป่ายเครื่องเล่นสนามนั้น ดีทั้งกับร่างกายและสมองลูกเลยล่ะ
- ปลูกต้นไม้กันเถอะ วันแรกของการปิดทีวี ก็ชวนกันไปเลือกซื้อต้นไม้มาปลูก ให้ลูกดูแลต้นไม้ของเขาเองนะคะ วันต่อๆ ไปก็พูดชวนเขาให้ไปดูแลต้นไม้ รดน้ำให้มัน ดูการเจริญเติบโตของมัน ฯลฯ
- มาเล่นกัน เด็กๆ ชอบเล่นอยู่แล้ว ลองชวนเขาต่อบล็อก เล่นขายของ เล่นบทบาทสมมติ วาดภาพ ระบายสี ทำของเล่น ฯลฯ หรือชวนลูกช่วยทำงานบ้าน เช่น ล้างรถ รดน้ำต้นไม้ หรือชวนลูกไปเที่ยวนอกบ้าน ฯลฯ ล้วนทำให้ลูกสนุกสนานเพลิดเพลินจนลืมทีวีได้ทั้งนั้น
|
เด็กส่วนใหญ่ดูทีวีเพราะเขาไม่มีกิจกรรมอื่นทำ แต่หากเราหากิจกรรมทดแทนให้เขาได้ เขาก็สามารถสนุกกับกิจกรรมใหม่ได้ ที่สำคัญ คุณพ่อคุณแม่ต้องระวังไม่เป็นแบบอย่างของการดูทีวีให้ลูก เราควรเป็นแบบอย่างในการทำกิจกรรมที่อยากส่งเสริมเขา เช่น อ่านหนังสือ ปลูกต้นไม้แทนการดูทีวี หรือเอาตัวเราไปเล่นกับเขาแทนทีวี ลูกก็จะค่อยๆ ห่างทีวีได้ไม่ยากค่ะ