เล่น...พัฒนาประสาทสัมผัสลูกวัยแรกเกิด-6 เดือน
view 12,009
พัฒนาการเด็กแรกเกิด
พัฒนาการของ ตา ( การมองเห็น )
ในบรรดาประสาทสัมผัสทั้ง 5 ประสาทตาจะเป็นส่วนที่ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ที่สุดสำหรับพัฒนาการเด็กแรกเกิดที่สามารถมองเห็นได้ในระยะใกล้ๆ เพียง 10-13 นิ้ว และยังมองเห็นสีต่างๆ ไม่ชัดเจน จากการวิจัยของ Dr.Robert Fantz จากมหาวิทยาลัย Cleveland รัฐโอไฮโอ พบว่าทารกแรกเกิดเลือกที่จะมองภาพรูปทรงเรขาคณิต สีดำ-ขาวมากกว่าสีอื่นๆ สีดำ-ขาว เป็นสีที่มีความเข้มแตกต่างกันอย่างชัดเจน จึงช่วยกระตุ้นการมองเห็นของเด็กให้เกิดความสนใจอย่างมีจุดหมาย พร้อมทั้งช่วยส่งเสริมให้เด็กทารกกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้สิ่งรอบตัวมากขึ้นในวัยต่อๆ มา อายุ 6 เดือน การประสานงานของตาสองข้างจะดีขึ้น ประกอบกับกล้ามเนื้อมือก็เริ่มพัฒนา ลูกจะมองและหยิบจับของได้ดีขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ลูกจะมองเห็นแต่คว้าของได้ไม่แม่น เพราะสายตายังไม่ดี กล้ามเนื้อ ก็ยังควบคุมไม่ได้ หลัง 6 เดือน ลูกจะมองเห็นได้ชัดขึ้นและไกลขึ้นเรื่อยๆ กระทั่ง 3 ขวบขึ้นไป ลูกจะพัฒนาการมองเห็นได้เหมือนผู้ใหญ่
เล่น...กระตุ้นการมองเห็นของลูก นำแผ่นกระตุ้นสายตาที่มีสีขาว-ดำ-แดง หรือโมบายล์มาห้อยให้ลูกดู เล่นโบกมือให้ลูกมองตามยื่นหน้าเข้ามาพูดคุย ยิ้ม หยอกล้อลูก ไม่ปล่อยให้เขานอนเฉยๆ อยู่ทั้งวัน
พัฒนาการของ หู ( การได้ยิน )
เมื่อคลอดออกมาลูกจะได้ยินเสียงเสียงแล้ว เพียงแต่ยังหาต้นตอของเสียงไม่ได้ กระทั่ง 3 เดือน จึงจะเริ่มหาต้นตอของเสียงได้ แต่ก็ยังหันหาเสียงไม่ได้ เพราะคอยังไม่แข็ง พัฒนาการเด็กแรกเกิดอายุ 6 เดือนลูกเริ่มมองหาต้นตอของเสียงที่มาจากด้านข้างได้ คอของลูกที่เริ่มแข็งจะช่วยให้เขาเหลียวมองหาเสียงได้ แต่ก็ยังหันหาเสียงจากด้านบนและล่างไม่ได้ อายุ 9 เดือน ลูกถึงจะเริ่มหันหาเสียงได้ทุกทิศทางและเริ่มพัฒนาด้านความชัดเจนในการได้ยินอย่างเต็มที่เพื่อเป็นพื้นฐานในการพัฒนาภาษาต่อไป
เล่น...กระตุ้นการได้ยินของลูก พูดคุยกับลูกบ่อยๆ ร้องเพลงกล่อมเขาบ้าง เปิดเพลงให้ฟังบ้าง หรือลองหาของเล่นที่ส่งเสียงดังกรุ๋งกริ๋งให้เขาฟัง ขณะเดียวกันก็ให้เขานอนในห้องเงียบๆ บ้าง เพื่อหัดให้แยกแยะความแตกต่างระหว่างการมีเสียงและความเงียบ แต่อย่าให้เขาฟังเสียงอึกทึกครึกโครม การเปิดทีวี วิทยุ ตลอดเวลาหรือสร้างบรรยากาศให้มีหลายเสียงพร้อมๆ กันไม่ใช่พัฒนาการได้ยินที่ถูกต้อง
พัฒนาการของ มือ ( สัมผัส )
พัฒนาการเด็กแรกเกิด ตั้งแต่แรกลูกเรียนรู้การสัมผัสได้ในชีวิตประจำวันของเขาไม่ว่าจะเป็นการโอบกอดจากพ่อ แม่ การลูบเนื้อตัว การอาบน้ำ ถูสบู่ อายุ 2-3 เดือน เขาเริ่มสนุกกับการใช้มือแกจะคว้าของ แต่ก็ไม่แม่นนัก เพราะมือกับตายังไม่ทำงานประสานกัน 4-5 เดือน ลูกเริ่มคว้าของได้แล้วและจับได้มั่นคงขึ้นเมื่อเข้า 6 เดือน
เล่น...กระตุ้นการสัมผัสของลูก 3 เดือนแรกลูกอาจจะกำมืออยู่ตลอดเวลา เมื่ออารมณ์ดีๆ แกะมือเขาออกแล้ววางวัสดุที่มีพื้นผิวแตกต่างกันไปเรื่อยๆ เช่น นุ่มบ้าง แข็งบ้าง ใส่ไว้ในฝ่ามือลูกเขาจะได้เรียนรู้ผิวสัมผัสของวัสดุต่างๆ หรือหมั่นเปลี่ยนท่านอนให้ลูกบ้าง จะช่วยให้ลูกได้รับผิวสัมผัสที่แตกต่างออกไป
พัฒนาการของ จมูก ( กลิ่น )
เคยมีงานวิจัยพัฒนาการเด็กแรกเกิด โดยใช้ผ้า 2 ผืน ผืนหนึ่งชุบน้ำนมของแม่ตนเอง อีกผืนหนึ่งชุบน้ำนมของแม่เด็กอื่น แล้วยื่นผ้าทั้งสองผืนมาใกล้ๆ เด็กทารก ปรากฏว่าเด็กหันหน้าไปทางผ้าที่ชุบน้ำนมแม่ตัวเอง แม้จะยื่นผ้าสลับข้างกันเด็กก็ยังหันไปทางผ้าที่ชุบน้ำนมแม่ตัวเอง แสดงให้เห็นว่าลูกสามารถรับรู้กลิ่นได้ตั้งแต่แรกเกิด และกลิ่นที่ดึงดูดและกระตุ้นประสาทสัมผัสลูกแรกเกิดได้มาก คือกลิ่นของแม่นี่เอง
เล่น...กระตุ้นการรับกลิ่นของลูก นอกจากกลิ่นกายแม่ซึ่งลูกได้จากการที่แม่สัมผัส โอบกอด หอมลูก คุณแม่ลองให้เขาได้ดมกลิ่นต่างๆ รอบตัวที่เขาสัมผัสเป็นประจำ เช่น กลิ่นแป้ง กลิ่นดอกไม้ กลิ่นผลไม้ ฯลฯ
พัฒนาการของ ลิ้น ( รส )
การรับรสของลูกก็เหมือนกับประสาทสัมผัสชนิดอื่น คือมีพัฒนาการไปตามวัย แต่ละตำแหน่งของลิ้นจะรับรสที่หลากหลายแตกต่างกันไป ปุ่มรับรสหวานอยู่ที่ตรงกลางของลิ้น ส่วนรสขมอยู่โคนลิ้น รสเค็มอยู่ด้านข้างของลิ้น
เล่น...กระตุ้นการรับรสของลูก นอกจากน้ำนมของแม่ เมื่อถึงวัยลูกกินอาหารเสริมได้ การให้ลูกกินอาหารที่หลากหลาย เหมาะสมตามวัยของเขา จะช่วยกระตุ้นการรับรสของลูกได้แล้ว
ในพัฒนาการเด็กแรกเกิด การแสดงความรักต่อลูกไม่ว่าจะเป็นการอุ้ม การสัมผัส การโอบกอด จะทำให้เกิดการเชื่อมโยงกันของเซลล์สมองเพื่อทำหน้าที่ต่างๆ เช่น การเห็น การได้ยิน การเคลื่อนไหว การแสดงออกทางอารมณ์ ระบบต่างๆ เหล่านี้จะต้องได้รับการกระตุ้นจากประสบการณ์ที่เข้ามาในสมองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งจะเป็นพื้นฐานให้สมองพัฒนา มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการทำงานไปจนตลอดชีวิตของเด็ก หากไม่มีการกระตุ้นที่เหมาะสม เด็กจะขาดพัฒนาการด้านนั้นจะทำให้เครือข่ายเส้นใยสมองที่ควรจะมีก็ไม่เกิดขึ้น