บ๊ายบายขวดนม
view 6,412
โดยพัฒนาการทางร่างกายแล้วเด็กจะสามารถดื่มนมจากแก้วได้เมื่ออายุ 1- 1 ขวบครึ่ง เด็กๆ วัยนี้ต้องเตรียมตัวที่จะเข้าเรียนอนุบาล การติดนมขวดนอกจากจะเสียบุคลิกภาพแล้วยังมีผลต่อฟันซี่น้อยๆ อีกด้วย รู้อย่างนี้แล้วเจ้าตัวเล็กบ้านไหนยังติดดูนมขวดอยู่ ต้องเริ่มบ๊ายบายขวดนมกันแล้วนะคะ
ทำไมต้องเลิก?
เพราะการติดขวดนมอาจขัดขวางการขึ้นของฟันน้ำนมได้ น.พ. กมล แสงทองศรีกมล ได้อธิบายว่า ”เป็นความเข้าใจผิดของคนส่วนหนึ่งที่ว่าฟันน้ำนมไม่สำคัญอะไร ถ้ามันผุ เดี๋ยวมันก็หลุดไป ฟันแท้ใหม่ก็ขึ้นมาแทน แต่แท้ที่จริงแล้วฟันน้ำนมนั้นมีความสำคัญมาก เพราะเด็กทุกคนจำเป็นต้องมีฟันที่แข็งแรง เพื่อที่จะใช้ในการบดเคี้ยวอาหาร พูดคุย และมีรอยยิ้มที่สวยงาม นอกจากนี้ฟันน้ำนมยังมีประโยชน์ในการ ช่วยรักษาเนื้อที่ในขากรรไกร เพื่อให้ฟันแท้ที่ขึ้นมาแทนที่ สามารถขึ้นมาได้อย่างถูกต้องและมีระเบียบ ถ้าเด็กสูญเสียฟันน้ำนมไปก่อนเวลาอันควร ฟันน้ำนมซี่อื่นที่อยู่ข้างๆ ช่องว่างที่ถูกถอน ก็จะเคลื่อนที่เข้ามาสู่ช่องว่างนั้น เป็นผลให้ฟันแท้ที่จะขึ้นมาไม่มีเนื้อที่เพียงพอ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กมีฟันเกเมื่อโตขึ้น”
และหากเด็กติดขวดนมไปจนถึงอายุ 3 ขวบ นอกจากฟันจะผุแล้ว ยังอาจทำให้ฟันยื่น โรคในช่องปากถามหา ยิ่งในเด็กที่หลับคาขวดนมมีโอกาสที่ฟันจะผุมาก บางครั้งผุถึงรากฟันเลยทีเดียว จากสถิติพบว่า เด็กอายุ 2-3 ขวบ ที่ยังคงดูดนมจากขวดมีถึงร้อยละ 80 อายุ 4 ปี ก็ยังมีให้เห็นถึงร้อยละ 45 เด็กอายุ 8 ปีที่ยังดูดนมก็ยังพบได้ แปรงฟันก่อนนอนแล้ว ก็ยังคว้าขวดนมมาดูด และหลับคาขวดนม พบอีกร้อยละ 44
แล้วจะเลิกอย่างไร?
วิธีการเลิกขวดนมนั้นมีอยู่สองทางหลักๆ คือแบบค่อยเป็นค่อยไป และแบบหักดิบค่ะ
- สำหรับบ้านไหนที่ชอบแบบค่อยเป็นค่อยไปอยากให้เริ่มจาก อธิบายลูกว่าทำไมเขาต้องเลิกการดูดนมจากขวด แล้วค่อยๆ ลดมื้อนมลงโดยเฉพาะมื้อดึก หรือให้ดื่มนมจากแก้วมากขึ้น
- สำหรับบ้านที่คิดว่าค่อยเป็นค่อยไปคงไม่ได้การ การหักดิบก็เป็นอีกตัวเลือกค่ะ ข้อนี้คนที่ต้องใจแข็งคือคุณพ่อคุณแม่ค่ะ เริ่มจากเก็บขวดนมออกจากบ้านให้หมดและใช้แก้วแทนในทุกมื้อ ยังไงก็ต้องใจแข็งไม่อ่อนเวลาลูกอ้อนง่ายๆ นะคะ วีธีนี้จึงจะได้ผลค่ะ
ขอเอาใจช่วยทั้งคุณพ่อคุณแม่และเจ้าตัวเล็กนะคะ ต้องใจแข็งหน่อย แล้วภารกิจนี้จะสำเร็จได้ไม่ยากค่ะ
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก
http://www.elib-online.com/doctors52/child_milk002.html
http://gotoknow.org/blog/kamolss/185434